1. วัดถ้ำเสือ
วัดถ้ำเสือ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงไม่น้อย รวมถึงยังถือว่าเป็นวัดที่มีพระที่มีองค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี พระเจดีย์ที่มีความสวยงามโดดเด่น สามารถมองเห็นได้จากในระยะไกล เพราะตั้งอยู่บนเนินเขา ใครที่มาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี สามารถแวะเยี่ยมชมวัด สักการะพระบรมสารีริกธาตุภายในพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท และนมัสการหลวงพ่อชินประทานพรติดต่อ 034 655 383 ถึง 4
เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 8.30 – 16.30 น.
เครดิต https://thailandtourismdirectory.go.th/
2. วัดทัพศิลา
วัดทัพศิลาเป็นวัดเล็กๆ อยู่ในเขตอำเภอเมืองจังหวัดกาญจนบุรี แต่ถ้าขับรถไปก็ใช้เวลาพอสมควรอยู่ วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักเร็วมากเมื่อมีการขุดพบ "หินเทพช้าง" หินนี้ถูกขุดพบหลังจากเจ้าอาวาสวัดนิมิตเห็นว่ามีวิญญาณช้างสิงสถิตย์อยู่ในหิน วิญญาณช้างเล่าว่าเป็นช้างศึกที่เคยรบกับพม่าหลังจากชนะแล้วได้รับบาดเจ็บเดินทางกลับเมืองไม่ไหวตายระหว่างเดินทางและสิงอยู่ที่นี่นับแต่นั้นมา หลังจากขุดพบหินรูปร่างเหมือนช้างก็มีการทำพิธีและสร้างกำแพงล้อมรอบเพื่อไม่ให้คนเดินข้าม มีเรื่องเล่าว่าคนที่มากราบไหว้ขอโชคขอลาภประสบความสำเร็จตามที่ขออยู่เป็นประจำ นอกจากนั้นทางวัดก็ได้สร้างพระธาตุเหมือนพระธาตุอินทร์แขวนอยู่บนเขา เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หลายคนจะแวะมากราบไหว้อยู่เป็นประจำเปิดบริการ ทุกวัน เวลา 8.00 – 16.00 น.
เครดิต https://thailandtourismdirectory.go.th/
3. วัดถ้ำพุหว้า
วัดป่าในอ้อมกอดของขุนเขา บรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การวิปัสสนา แต่เดิมมีถ้ำเป็นอุโบสถ แต่ปัจจุบันได้รับการบูรณะให้สวยงามอลังการ โดยการสร้างอุโบสถหินทรายครอบตัวถ้ำเอาไว้ ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย สวยงามตามธรรมชาติ และมีพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากสหภาพเมียนม่าร์ ประดิษฐานไว้ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะอีกด้วยติดต่อ 087 166 1819
เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 8.00 – 18.00 น.
เครดิต https://thailandtourismdirectory.go.th/
4. วัดทิพย์สุคนธาราม
"วัดทิพย์สุคนธาราม" ตั้งอยู่ใน อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี บนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ ซึ่งวัดนี้มีสิ่งที่โดดเด่น คือ "พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถ คันธารราฐอนุสรณ์" จัดสร้างเนื่องในโอกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเฉลิมพระชนม พรรษา 84 พรรษาและในโอกาส ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ปี 2555 โดยมีความหมาย 3 ประการ คือ เป็นที่พึ่งของประชาชน เป็นที่พึ่งของ 3 โลก โดยสร้างตามแบบพระพุทธรูปองค์ที่อยู่บนเทือกเขาบาบียันอายุกว่า 2,000 ปี ที่ถูกพวกตาลีบันทำลายไปให้กลับปรากฏให้เห็นอีกครั้งในประเทศไทยให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขและเพื่อแสดงถึงความมั่นคงของพุทธศาสนาในไทยติดต่อ 034 510 993
เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.
เครดิต https://thailandtourismdirectory.go.th/
5. วัดใต้น้ำ (โบสถ์จมน้ำ) วัดหลวงพ่ออุตตมะ
วัดใต้น้ำ หรือวัดจมน้ำ คือวัดวังก์วิเวการามเดิม ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็น Unseen Thailand เพราะมีความแปลกที่มีซากโบราณสถานจมอยู่ใต้น้ำ เป็นสถานที่เล่าขานถึงตำนานความเป็นมาของวัดหลวงพ่ออุตตมะ จนหลายคนเรียกกันว่าเมืองบาดาลติดต่อ 034 595 422
เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 6.00 – 18.00 น.
เครดิต https://thailandtourismdirectory.go.th/
6. วัดวังก์วิเวการาม
วัดวังก์วิเวการาม หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "วัดหลวงพ่ออุตตมะ" นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรีแล้ว ยังเป็นวัดที่ถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับคนพื้นถิ่น และเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนหลายเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในอำเภอสังขละบุรี ทั้งชาวไทย และกะเหรี่ยง โดยเฉพาะสำหรับชาวไทยเชื้อสายมอญ ที่เปรียบหลวงพ่ออุตตมะเป็น "เทพเจ้าแห่งชาวมอญ" วัดวังก์วิเวการาม จึงเกิดจากพลังศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อ และเป็นวัดที่เคยเป็นที่จำพรรษาของ "หลวงพ่ออุตตมะ" วัดจึงเป็นเสมือนตัวแทนหลวงพ่อ และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวมอญ ในการประกอบพิธีกรรมตามประเพณีของมอญ และจัดงานอื่นๆ เช่นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดงานคล้ายวันเกิดของหลวงพ่ออุตตมะ มีงานกิจกรรมต่างๆ พิธีกรรมทางศาสนา งานแข่งขันชกมวยคาดเชือก การแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่นการรำแบบมอญ การรำตงของชาวกะเหรี่ยง และมีการแต่งกายตามแบบวัฒนธรรมชาวไทยรามัญติดต่อ 089 184 0069
เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 8.00 – 16.30 น.
เครดิต https://thailandtourismdirectory.go.th/
7. วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าหลวงตาบัวเป็นวัดที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี และตอนนี้ทางวัดได้รับได้รับ การตั้งเป็น สวนสัตว์สาธารณะจาก กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เป็นที่เรียบร้อย และเป็นวัดแรกในเมืองไทยด้วยครับ เพราะทางวัดได้มีการดูแลเสือ และสัตว์ต่างๆเป็นอย่างดี และอาจจะดีกว่าสวนสัตว์เอกชนหลายแห่งที่มีอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากทางวัดมีพื้นที่เพียงพอสำหรับสัตว์ มีสัตว์แพทย์คอยดู แลด้านสุขภาพและมีความพร้อมทางด้านอาหารของสัตว์ติดต่อ 034 531 557
เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.
เครดิต https://thailandtourismdirectory.go.th/
8. วัดปากลำขาแข้ง
โบสถ์แสตนเลส ณ วัดป่าลำขาแข้ง และพระพุทธรูปแสตนเลส หนึ่งเดียวในโลก ฉลุลายไทยวิจิตรงดงาม สร้างสรรค์จากแรงศรัทธาของประชาชน ที่ช่วยกันบริจาคสร้างขึ้นเพื่อนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวในวโรกาสทรงเจริญพระชนพรรษาครบ 80 พรรษา เป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen แห่งใหม่ในอำเภอ ศรีสวัสดิ์ การไปชมโบสถ์นี้ต้องนั่งเรือหางยาวจากเขื่อนศรีนครินทร์ไปชมความงดงามของโบสถ์แห่งนี้ เพราะ วัดตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ ไม่สามารเดินทางด้วยพาหะนะอย่างอื่นติดต่อ 081 835 3953
เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 8.00 – 16.00 น.
เครดิต https://thailandtourismdirectory.go.th/
9. วัดแท่นหินลำภาชี
วัดหินแท่นลำภาชี ตั้งอยู่บ้านหินแท่น ตำบลหนองไผ่ อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี เป็นวัดที่เลื่องชื่ออุโบสถที่สวยที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี องค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่หน้าอุโบสถ โดยอุโบสถที่สวยงามแห่งนี้เรียกว่า โบสถ์สำเภาแก้วร้อยล้าน ถูกสร้างขนาบข้างด้วยเรืออนันตนาคราชลักษมี หนึ่งเดียวในประเทศไทย
ที่ตั้ง บ้านหินแท่น ต.หนองไผ่ อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี
ติดต่อ 085 296 4691, 062 193 5991 เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 8.30 – 17.00 น.
เครดิต https://thailandtourismdirectory.go.th/
แสดงความคิดเห็น