อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
ตั้งอยู่ที่อำเภอภูกระดึงในจังหวัดเลย เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไทย เนื่องจากมีธรรมชาติที่สวยงาม ภูกระดึงได้รับการจัดตั้งเป็นป่าสงวนแห่งชาติในปี พ.ศ. 2486 และเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2502 โดยเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่สองถัดจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ภูมิอากาศ
อุทยานแห่งชาติภูกระดึงมีภูมิอากาศบริเวณพื้นราบรอบเชิงเขาเหมือนกับบริเวณอื่นๆในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน-ตุลาคม ฝนตกชุกที่สุดระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 26 °C อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ในเดือนมกราคม และอุณหภูมิสูงสุดอยู่ในเดือนเมษายน ปริมาณหยาดน้ำฟ้า 1,242 มิลลิเมตรต่อปี ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 72%
สภาพอากาศบนยอดภูกระดึง เนื่องจากอิทธิพลของเมฆและหมอกที่ปกคลุมยอดเขา ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 90% อุณหภูมิเฉลี่ย 19.7 °C ในฤดูหนาวช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม มีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ระหว่าง 0-10 °C อุณหภูมิสูงสุดอยู่ระหว่าง 21-24 °C ส่วนในฤดูร้อนระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ระหว่าง 12-19 °C อุณหภูมิสูงสุดอยู่ระหว่าง 23-30 °C อากาศบนยอดภูกระดึงมักจะแปรปรวน มีเมฆหมอกลอยต่ำปกคลุมบ่อยครั้ง อากาศจึงค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปี
เส้นทางการท่องเที่ยว
อุทยานแห่งชาติภูกระดึงเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทย ในแต่ละปีจึงมีคนมาเที่ยวเฉลี่ยหลายหมื่นคน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวมักมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปพักผ่อนบนภูกระดึงจำนวนมาก เฉพาะบนยอดเขาภูกระดึงมีการปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-30 กันยายนของทุกปี และเปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม-31 พฤษภาคมของทุกปี
เส้นทางขึ้นไปยังยอดเขาภูกระดึง
- เส้นทางขึ้นที่อำเภอภูกระดึง: เป็นเส้นทางเก่าแก่และได้รับความนิยมมากที่สุด นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเขาในเส้นทางนี้ได้ที่อำเภอภูกระดึง ณ ที่ทำการอุทยาน ในเส้นทางขึ้นจะมีบริเวณที่พักและร้านอาหารหลายช่วง มีระยะทาง 5.5 กม.จากที่ทำการถึงหลังแป และจากหลังแปถึงที่พักประมาณ 3.6 กม.
- เส้นทางขึ้นที่อำเภอน้ำหนาว: นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นไปยังยอดเขาภูกระดึงได้ที่บ้านฟองใต้อำเภอน้ำหนาว ซึ่งเป็นเส้นทางขึ้นเขาเส้นทางใหม่ โดยจะขึ้นไปที่ผาหล่มสักโดยตรง มีระยะมีระยะทาง 5.2 กิโลเมตรจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลย.5 (หนองผักบุ้ง) ถึงผาหล่มสัก
เส้นทางท่องเที่ยวบนยอดเขาภูกระดึง
เส้นทางท่องเที่ยวบนยอดเขาภูกระดึงแบ่งออกได้เป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือบริเวณท่องเที่ยวปกติ และบริเวณป่าปิด โดยบริเวณแหล่งท่องเที่ยวปกติก็จะแบ่งได้เป็นสองเส้นทางคือ เส้นทางน้ำตก และ เส้นทางเลียบผา ส่วนบริเวณป่าปิดก็จะแบ่งได้เป็น เส้นทางน้ำตกขุนพอง และ เส้นทางผาส่องโลก
เส้นทางน้ำตกจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญได้แก่ น้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโผนพบ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำใหญ่ สระแก้ว น้ำตกถ้ำสอใต้ สระอโนดาด น้ำตกธารสวรรค์ และ พระพุทธเมตตา เส้นทางเลียบผาจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญได้แก่ พระแก้ว ผานกแอ่น ผาหมากดูก ผาจำศีล ผานาน้อย ผาเหยียบเมฆ ผาแดง และผาหล่มสัก เส้นทางน้ำตกขุนพองจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญได้แก่น้ำตกขุนพอง และเส้นทางผาส่องโลกจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญได้แก่ น้ำตกผาฟ้าผ่า โหล่มฟ้าโลมดิน ผาส่องโลก โหล่นเจดีย์ โหล่นถ้ำพระ และ แง่งทิดหา
จุดดูพระอาทิตย์ขึ้นสามารถดูได้ที่ผานกแอ่นเพียงที่เดียวมีระยะทางห่างที่พักเพียง 2 กม. สำหรับจุดดูพระอาทิตย์ตกสามารถชมได้ที่ผาหมากดูกซึ่งใกล้ที่สุดห่างจากที่พักเพียง 2 กม. และผาหล่มสักซึ่งเป็นจุดที่นิยมมากที่สุด
เครดิต : https://1th.me/ukpgn
สกายวอล์คภูคกงิ้ว
พระใหญ่ภูคกงิ้ว ตั้งอยู่ที่ภูคกงิ้ว บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาบริเวณปากลำน้ำเหืองจรดกับแม่น้ำโขง เป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพรเป็นที่เคารพสักการะของชาวเชียงคานและประชนทั่วไป
แลนด์มาร์คแห่งใหม่ล่าสุดของ จังหวัดเลย “สกายวอล์คเชียงคาน” หรือ "สกายวอล์คภูคกงิ้ว" ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย บอกเลยว่าต้องขาสั่นเลยทีเดียว เพราะความสูงของสกายวอล์คนี้ มีความสูงกว่าระดับแม่น้ำโขงกว่า 80 เมตร หรือเทียบเท่าตึก 30 ชั้น มีทางเดินที่ทำด้วยกระจกใสชนิดพิเศษ พื้นกว้าง 2 เมตร ยาวกว่า 100 เมตร มีตะแกรงเหล็กรองรับ และมีพระใหญ่คกงิ้ว เป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร หล่อด้วยไฟเบอร์ผสมเรซิ่นทอง สูงกว่า 19 เมตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของแลนด์มาร์คนี้
ส่วนทัศนียภาพบริเวณรอบนอกจากจะสามารถทอดสายตามองแบบสุดลูกหูลูกตาแล้ว ด้านล่างยังสามารถมองเห็นแม่น้ำเหืองที่ไหลผ่านมาบรรจบแม่น้ำโขง ซึ่งสามารถมองเห็นแม่น้ำทั้งสองสีตัดกันอย่างชัดเจนและยังเป็นแม่น้ำที่กั้นชายแดนไทย-ลาว อีกด้วย นับว่าเป็นอีกหนี่งจุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาสักครั้ง เมื่อมาเที่ยวจังหวัดเลย
วนอุทยานภูผาล้อม
- มีที่กางเต็นท์และห้องสุขา
- ควรติดต่อเจ้าหน้าที่นำทาง
การเดินทาง
- รถยนต์ส่วนตัว จากตัวเมืองเลยข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเลย แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2138 ตรงไปจนถึงหลัก กม.9 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2249 ไปจนถึงบ้านเพีย ระยะทางประมาณ 18 กม. แล้วเลี้ยวขวาข้างวัดเลียบบ้านเพียไปตามถนนายบ้านเพียบ-ห้วยตาดประมาณ 2 กม. พบป้ายทางเข้าสำนักสงฆ์กวนผาล้อมทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าไปอีกประมาณ 2 กม. ถึงวนอุทยาน
- รถประจำทาง ขึ้นรถสายเลย-บ้านสูบ ลงที่บ้านเพีย แล้วต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ราคา 20 บาท
วัดศรีคุณเมือง
"วัดศรีคุณเมือง" หรือ "วัดใหญ่" หนึ่งในหลายศาสนสถานสำคัญและถือเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านที่นี่ ตั้งอยู่บนถนนชายโขง ระหว่างซอยศรีเชียงคาน 6 และซอยศรีเชียงคาน 7 วัดนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2485 และถือเป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงคานมาอย่างยาวนาน และทุกวันพระรวมถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนา วัดแห่งนี้จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ซึ่งมีทั้งชาวเชียงคานเองรวมถึงนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน ที่ต่างก็พร้อมใจกันมาร่วมทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ ฟังธรรมกันอย่างถ้วนหน้า ครั้งแรกที่มาถึง เมื่อเราเดินผ่านกำแพงแก้วเข้ามาภายในบริเวณวัด ก็ต้องสะดุดตากับโบสถ์เก่าแก่ที่มีหลังคาลดหลั่นกันลงมาตามแบบศิลปะล้านนา อยู่เบื้องหน้า นอกจากนี้บริเวณผนังด้านหน้าของพระอุโบสถยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ปรากฏให้เห็นอยู่เต็มหน้าบรรณ ซึ่งภาพทั้งหมดนี้เป็นภาพนิทานชาดกชุด พระเจ้าสิบชาติ และถ้าสังเกตยังบริเวณด้านล่างของภาพจะเห็นว่ามีรูปรถตุ๊กตุ๊กอยู่ด้วย ทำให้สันนิฐานได้ว่า น่าจะเป็นภาพที่ถูกเขียนขึ้นมาใหม่หรืออาจมีการแต่งเติมลงไปบนภาพเขียนเดิม ก็เป็นได้ และเมื่อเดินผ่านประตูโบสถ์เข้ามาด้านใน ก็จะพบกับพระพุทธรูปไม้จำหลัก ลงรักปิดทอง ปางประธานอภัย ที่สร้างตามแบบศิลปะล้านช้างหรือแบบลาว ซึ่งคาดว่าน่าจะสร้างขึ้นมาในสมัยพุทธศตวรรษที่ 24-25 และมีข้อสังเกตว่าสำหรับผู้หญิงแล้ว การที่จะเข้ามาสักการะพระพุทธรูปไม้จำหลักนี้ จะทำได้เพียงการก้มกราบอยู่ตรงบริเวณด้านล่างของอาศนะสงฆ์เท่านั้น ก่อนกลับให้ลองสักเกตบริเวณด้านข้างของพระประธานกันให้ดี ๆ เพราะจะมี "ฮางฮด" หรือ "รางรด" ที่มีลักษณะคล้ายรางน้ำตั้งอยู่ โดยตัวรางจะเป็นรูปของเรือสุพรรณหงส์ ส่วนด้านหน้าจะเป็นเศียรของพญานาค และส่วนท้องค่อนมาทางหัวของพญานาคจะมีรูให้น้ำไหลลงมาได้ ฮางฮดนี้จะใช้ในการประกอบพิธีสรงน้ำพระผู้ใหญ่หรือเจ้าเมืองเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันหาดูได้ยากแล้ว
การเดินทาง
ใช้ทางหลวงหมายเลข 201 จากตัว อ.เมือง ถึง อ.เชียงคาน ระยะทาง 47 ก.ม.จากสามแยกเชียงคาน เลี้ยวขวาเข้าถนนศรีเชียงคาน จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยศรีเชียงคาน 7 เพื่อไปยังถนนชายโขง วัดศรีคุณเมืองอยู่ระหว่างซอยศรีเชียงคาน 6-7
เครดิต : https://1th.me/T5bmdพระพุทธบาทภูควายเงิน
การเดินทาง
หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ
เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึง นอกจากการเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวไทดำที่สร้างมากว่าร้อยปีแล้วนั้น จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะกันก็คือ “หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ บ้านนาป่าหนาด หมู่ที่ 4 ที่นี่เราจะพบกับบ้านจำลองที่สร้างขึ้นตามรูปแบบของชาวไทดำในอดีต โดยบันไดบ้านด้านหน้า จะขึ้นได้แต่เฉพาะผู้ชายเท่านั้น เมื่อขึ้นไปแล้วห้องแรกจะเป็นห้องของผีเรือน ผีปู่ย่า ที่ชาวไทดำนับถือ ถัดมาเป็นห้องโล่งและมีพื้นที่กว้างสุดในบ้าน ใช้สำหรับเป็นห้องนอน โดยในห้องนี้จะมีเตาไฟวางไว้ปลายเท้าของเจ้าบ้าน ถัดไปซึ่งเป็นส่วนสุดท้ายของตัวบ้าน จะเป็นที่ประกอบอาหาร โดยมีบันไดที่ใช้เป็นทางขึ้นลงสำหรับผู้หญิงชาวไทดำด้วย
นอกจากนี้บริเวณใต้ถุนบ้านที่ศูนย์วัฒนธรรม ยังมีกลุ่มสตรีสหกรณ์ชาวไทดำนั่งรวมตัวกันทำผ้าทอมือแบบโบราณ หลังจากการทำนา เพาะปลูก ให้ได้ชมกันอีกด้วย ซึ่งไม่ควรพลาดชมเลยทีเดียว เพราะผ้าทอมือหรือที่ชาวไทดำเรียกว่า “ซิ่นนางหาญ” มรดกตกทอดที่ทำสืบต่อกันมากว่า 100 ปีนั้น มีลวดลายที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก
คำว่า “นางหาญ” ที่ชาวไท เรียกกันนั้น หมายถึงความกล้าหาญ ความเด็ดเดี่ยว นั่นเอง
นอกจากนี้ที่ศูนย์วัฒนธรรมฯแล้ว ยังมีผังตัวอักษรไทดำที่เขียนบันทึกไว้สำหรับให้ผู้สนใจและนักท่องเที่ยวได้ศึกษา พร้อมทั้งซื้อหาของฝากฝีมือกลุ่มสตรีสหกรณ์ชาวไทดำ เช่น ผ้าทอมือ สบู่สมุนไพร ดอกไม้ประดิษฐ์ที่ทำจากไหมพรมหลากสี ติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนทางบ้านในราคาที่ไม่แพงอีกด้วย
- การสาธิตวิธีการทอผ้าแบบชาวไทดำ
- การเรียนรู้ตัวอักษร ภาษาไทดำ
- ชมวิถีชีวิตของชาวไทดำ
- ชมการสาธิตการทอผ้า
- บ้านจำลองที่สร้างตามแบบบ้านโบราณในอดีต
แสดงความคิดเห็น