3/11/63

ไปชมธรรมชาติที่สระบุรี

ถ้ำศรีวิไล


ภายในถ้ำมีพระพุทธเนาวรัตน์ ศิลปะสมัยเชียงแสน มีหินงอก หินย้อย นอกจากนั้นยังสามารถเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติ

ภาพความงามของธรรมขาติสีเขียว ทิวเขาทอดตัวสลับซับซ้อนกว้างไกลสุดสายตา เป็นทิวทัศน์ที่มองทอดออกมาจากบริเวณ "วัดถ้ำศรีวิไล" ซึ่งตั้งอยู่บนเขา นอกจากเป็นจุดชมวิวสวย ๆ แล้ว ในถ้ำยังมี พระพุทธเนาวรัตน์ ศิลปะสมัยเชียงแสนประดิษฐานอยู่ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมชมความตระการตาของหินงอก หินย้อย ที่ส่องประกายวิบวับยามต้องแสงไฟที่ประดับไว้ภายในถ้ำ ด้านหน้าถ้ำมีน้ำมันพระพุทธมนต์ให้บูชา ว่ากันว่ามีสรรพคุณหลากหลาย เช่น รักษาแผลสด แผลเปื่อย แผลเรื้อรัง แผลน้ำร้อนรวก แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย รักษาโรคทางผิวหนังกลาก เกลื้อน ผิวหนังแห้ง ผมหลุดร่วง เป็นต้น 

เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ +66 3524 6076-7

 

ที่อยู่ : หมู่ 3 เฉลิมพระเกียรติ, สระบุรี

เครดิต : https://n9.cl/uixm0

 

อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น


 "อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น" เป็นอีกหนึ่งจุดหมายของนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ เดิมรู้จักกันในชื่อ อุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย หรือ อุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่น ด้วยพื้นที่ประมาณ 44 ตารางกิโลเมตร ครอบคุลม 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง แก่งคอย หนองแค และวิหารแดง ยังคงสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ ทั้งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด เช่น ไก่ฟ้า เก้ง ลิง นก และฝูงผีเสื้อจึงได้รับประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2524 

หากต้องการชมวิวสวยในมุมสูงต้องไปยังจุดชมวิว เขาครก สูงประมาณ 329 เมตร จะมองเห็นภูมิทัศน์รอบตัวเมืองสระบุรีและอำเภอใกล้เคียงได้ชัดเจน ไฮไลต์ของอุทยานฯ อยู่ที่การเดินทางไปยังน้ำตกต่าง ๆ เช่น 

"น้ำตกสามหลั่น" เป็นลานหินกว้างเรียงซ้อนกันสามชั้นมองดูคล้ายบันไดซึ่งเป็นที่มาของชื่อน้ำตกอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 300 เมตร 

"น้ำตกโพธิ์หินดาษ" เป็นน้ำตกชั้นเดียวเตี้ย ๆ สามารถลงเล่นน้ำได้ บริเวณน้ำตกเป็นลานหินกว้างมีต้นโพธิ์แผ่กิ่งก้านสาขาห่างจากที่ทำการประมาณ 300 เมตร 

"น้ำตกโตนรากไทร" น้ำตกชั้นเดียวตกลงมาจาก หน้าผาหินสูง 7 เมตร สู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง รอบ ๆ แอ่งน้ำมีโขดหินให้นั่งเล่นได้ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 400 เมตร การไปชมน้ำตกทั้ง 3 แห่งนี้ จะมีเส้นทางเดินเท้าเชื่อมโยงถึงกัน โดยไม่ต้องย้อนกลับเส้นทางเดิมใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง นอกจากน้ำตกสวย ๆ แล้ว ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่น ๆ ให้ไปชมกันอีก เช่น อ่างเก็บน้ำเขารวก เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กสามารถพายเรือคยัค ปั่นเรือถีบ และเล่นน้ำได้, อุโมงค์รถไฟพระพุทธฉาย, อนุสรณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ของกองทัพญี่ปุ่น (เขาแดง), ซากเจดีย์โบราณบนยอดเขาเรดาร์ รวมถึงเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ 3 เส้นทาง ให้ได้เลือกสัมผัสความงามของผืนป่าในบริเวณนี้ สำหรับการเดินป่าแนะนำว่าควรแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ให้ทราบก่อน จะปลอดภัยที่สุด 

รู้ก่อนเที่ยว

-ช่วงที่เหมาะในการท่องเที่ยวคือ ปลายเดือนกรกฎาคม-ต้นเดือนตุลาคม เพราะน้ำตกจะมีความสวยงามที่สุด

-มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว จำนวน 3 หลัง ราคา 600-2,400 บาท ค่ายพักแรม พักได้ค่ายละ 60 คน ราคา 6,000 บาท/คืน หรือนำเต็นท์ไปกางเองก็ได้เพราะมีที่สำหรับกางเต็นท์ไว้บริการ 

เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.30-17.30 น. อัตราค่าเข้าชมอุทยาน ชาวไทยผู้ใหญ่20 บาท เด็ก 10 บาท/ ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท

อุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการ ราคา ราคา 600-6,000 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทำการอุทยานฯ โทร. +66 3622 5171-2 หรือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. +66 2562 0760

 

ที่อยู่ : 53 หมู่ 1 เมืองสระบุรี, สระบุรี

เครดิต : https://n9.cl/goec9

 

ผาเสด็จ

เป็นหน้าผาที่รัชกาลที่ 5 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จมาประทับเมื่อคราวสร้างทางรถไฟสายกรุงเทพฯ -นครราชสีมา

ไม่เพียงเป็นความงามแปลกตาที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ด้วยรูปลักษณ์ของหน้าผาชง่อนหินที่แทบจะยื่น เข้าไปในบริเวณทางรถไฟ "ผาเสด็จ" ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในด้านการคมนาคม โดยเฉพาะกิจการการรถไฟแห่งประเทศไทย เพราะเป็นทางผ่านของเส้นทางรถไฟสายพระมหานคร-นครราชสีมาที่ใช้เดินทางเข้าสู่ภาคอีสานและเป็นทางรถไฟสายแรกของประเทศไทย ก่อสร้างโดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 สถานีรถไฟผาเสด็จอยู่ห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพ เป็นระยะทาง 138 กิโลเมตร


  ปัจจุบันเป็นสถานีรถไฟชั้น 3 และได้มีการบูรณะปรับปรุงภูมิทัศน์รอบบริเวณสถานีให้มีความสวยงามน่าชมเพื่อให้เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดสระบุรี เปิดให้รับชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ +66 3524 6076-7

 

ที่อยู่ : หมู่ 5 แก่งคอย, สระบุรี

เครดิต :  https://n9.cl/16b7r

 

ไร่องุ่นอำเภอมวกเหล็ก



 อำเภอมวกเหล็กคือแหล่งปลูกองุ่นคุณภาพของจังหวัดสระบุรี ที่นี่จึงมีไร่องุ่นให้นักท่องเที่ยวได้ชม ชิม และร่วมกิจกรรมเก็บผลองุ่นสดจากไร่ สร้างความสนุกสนานให้กับทุกคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี โดยไร่องุ่นที่น่าสนใจของ อำเภอมวกเหล็ก สามารถติดต่อได้ดังนี้ 

- ไร่องุ่นคุณมาลี โทร. +66 3622 7056-7, +668 1853 5893 

 


- สวนองุ่นภูอมรและไวน์องุ่นภูอมร โทร. +66 3632 7183, +668 19

06 9373 

- ไร่องุ่นกำนันเม้ง แหล่งปลูกองุ่นไร้เมล็ด ตั้งอยู่เลขที่101 หมู่5 (ทางเข้าบ้านบ่อตะนะ) ตำบลมิตรภาพอำเภอมวกเหล็ก โทร. +66 3634 1015 

- ไร่องุ่นปภัสรา โทร. +66 3636 4475 หรือ www.papassara.com 

- ไร่น้ำภูฟ้าตำบลลำพญากลางอำเภอมวกเหล็ก โทร. +668 1216 6419 

การเดินทาง ไร่องุ่นจะอยู่ตามเส้นทางสาย 2089 เส้นมวกเหล็ก-วังม่วง 

นอกจากนี้ยังชมการปลูกหม่อน (Mulberry) ได้ที่ฟาร์มสายทอง 77/1 บ้านกลุ่มพระบาท หมู่ 9 ตำบลหนองย่างเสือ การเดินทาง ตามทางสาย 2224 ห่างจากน้ำตกเจ็ดสาวน้อยประมาณ 6 กิโลเมตร โทร. 08 9045 1558, 09 1259 0699

 

ที่อยู่ :  มวกเหล็ก, สระบุรี

เครดิต : https://n9.cl/4c2mm

 

ทุ่งทานตะวัน


ตั้งอยู่ที่บริเวณเขตติดต่อระหว่างจังหวัดลพบุรี และสระบุรี ตามเส้นทางสายพัฒนานิคม-วังม่วง มีการทำไร่ทานตะวันกันมาก ในช่วงฤดูหนาวราวเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ริมฝั่งถนนจะสะพรั่งไปด้วยสีเหลืองของดอกทานตะวัน กลายเป็นภาพความประทับใจที่นักท่องเที่ยวต่างรอคอย 

เมื่อลมหนาวมาเยือนในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคม ริมฝั่งถนนในจังหวัดสระบุรีจะตระการตาไปด้วยดอกทานตะวันที่บานชูช่อรับแสงแดด พื้นที่ปลูกทานตะวันในสระบุรี (sunflower fields saraburi) มีหลายหมื่นไร่ เช่น อำเภอพระพุทธบาท แก่งคอย หนองโดน หนองแค และมวกเหล็ก 

ส่วนในอำเภอวังม่วงจะมีพื้นที่ปลูกมากที่สุด อีกทั้งบริเวณเขตติดต่อ ระหว่างจังหวัดลพบุรีและสระบุรี ตามเส้นทางสายพัฒนานิคม-วังม่วง ก็ทำไร่ทานตะวันมากเช่นกัน ทุกปีจึงมีการจัดงาน เทศกาลทุ่งทานตะวันบาน หมุนเวียนกันไปในแต่ละอำเภอ ซึ่งแต่ละพื้นก็มีความสวยงามและกิจกรรมแตกต่างกันไป ถ้าชอบขับรถชมทุ่งทานตะวันท่ามกลางบรรยากาศเนินเขา ทุ่งหญ้า ฟาร์มม้า โคนม และไร่องุ่น แนะนำที่อำเภอวังม่วง และมวกเหล็ก 

 

 

ทานตะวันจะออกดอกบานเต็มที่ระหว่างเดือนธันวาคม-เดือนมกราคม หากต้องการชมทุ่งทานตะวันในหุบเขาแบบแรลลี่ครอบครัว แนะนำที่ตำบลหินซ้อนและตำบลท่าคล้อ ในอำเภอแก่งคอย ช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคมทานตะวันจะบานสะพรั่งมากที่สุดกว่า 20,000 ไร่ ในหลายตำบล ส่วนการนั่งรถไฟ ชมทุ่งทานตะวันก็เป็นอีกมุมมองที่น่าสนใจ แนะนำให้นั่งรถไฟสายกรุงเทพฯ -หนองคาย เมื่อเข้าพื้นที่ตำบลท่าคล้อ หินซ้อน ของอำเภอแก่งคอย จะเห็นทุ่งทานตะวันเหลืองอร่ามตลอดแนวสองข้างทางรถไฟ แนะนำให้ไปช่วงกลางเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนจะไม่ผิดหวัง นอกจากนี้ในเทศกาลทุ่งทานตะวันบาน นอกจากจะได้ชื่นชมดอกทานตะวันกันอย่างใกล้ชิดพร้อมถ่ายภาพสวย ๆ แล้ว ยังมีการให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีปลูกดอกทานตะวัน ประโยชน์ของเมล็ดทานตะวัน พร้อมช้อปปิ้งสินค้าเพื่อสุขภาพ เช่น เมล็ดทานตะวันคั่ว น้ำผึ้งทานตะวัน ฯลฯ ถ้ามีเวลายังสามารถเดินทางไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ ๆ นมัสการพระพุทธบาท พระพุทธฉาย เที่ยวถ้ำชมน้ำตก เพลิดเพลินกันในไร่องุ่น พร้อมจิบไวน์ และชิมสเต็กเนื้อนุ่ม ฯลฯ ตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่อยู่บนเส้นทางของการไปชมทุ่งทานตะวัน ก็นับว่าเต็มอิ่มครบโปรแกรมของวันพักผ่อนโดยแท้ เนื่องจากทุ่งทานตะวันได้รับความนิยมจากนักท่องเทียวมาก หลาย ๆ จังหวัดจึงมีการปลูกทุ่งทานตะวันไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่ถ้าเยอะสุดก็ยังคงต้องยกให้แถวสระบุรีและลพบุรีเช่นเดิม ซึ่งมีสลับกันบานให้ได้ชมต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีไปจนถึงต้นปี การไปชมทุ่งทานตะวันนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเน้นการถ่ายรูปซึ่งต้องกะเวลาให้ดี แสงจะได้สวย บางแห่งก็จะมีกิจกรรมอื่น ๆ ไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย เช่นขี่ม้า ขี่จักรยาน ขับรถเอทีวี

 

 ที่อยู่ : บ้านห้วยดง ถนนพัฒนานิคม-วังม่วง วังม่วง, สระบุรี

เครดิต : https://n9.cl/k07ks

 

แสดงความคิดเห็น

Whatsapp Button works on Mobile Device only