อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด
ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคก อำเภอบ้านโคก ตำบลห้วยมุ่น
อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก
เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม
เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร
ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูงจากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร
จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวมีเนื้อที่ 125,110 ไร่ หรือ 200.18 ตารางกิโลเมตร
สถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ น้ำตกภูสอยดาว
อยู่ริมเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1268 ใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
มีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้นมีชื่อเรียกที่ไพเราะว่า ภูสอยดาว สกาวเดือน
เหมือนฝัน กรรณิการ์ และสุภาภรณ์ มีน้ำไหลตลอดปี น้ำตกสายทิพย์ เป็นน้ำตก 7
ชั้น ความสูงแต่ละชั้นประมาณ 5-10 เมตร
สภาพป่าโดยรอบน้ำตกมีความชุ่มชื้นมาก
จึงมีมอสสีเขียวขึ้นปกคลุมทั่วไปตามก้อนหินริมน้ำ ทุ่งดอกไม้ในป่าสน
ช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี
จะมีดอกไม้ดินชูช่อแย่งกันออกดอกเป็นกลุ่มหนาแน่น เช่น ดอกหงอนนาค
ดอกสร้อยสุวรรณา และดอกหญ้ารากหอม
ในฤดูหนาวจะมีดอกกระดุมเงิน
กล้วยไม้รองเท้านารี อินทนนท์ และต้นเมเปิลซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสวยงามมาก
ลานสนสามใบภูสอยดาว มีพื้นที่ประมาณ 1.6 ตารางกิโลเมตร เป็นที่ราบบนภูเขา
สูงจากระดับทะเลปานกลางประมาณ 1,633 เมตร
สภาพพื้นที่ของลานสนสามใบจะเป็นเนินสูงต่ำสลับกันไป
ชั้นล่างเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่สุดในประเทศ
บนลานสนยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม แต่ไม่มีบ้านพักและอาหาร
หากต้องการพักค้างแรมต้องเตรียมเต็นท์และอาหารไปเอง
การเดินทางต้องเดินเท้าจากน้ำตกภูสอยดาว ริมเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1268
ขึ้นสู่ยอดภูสอยดาวระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4-6
ชั่วโมง ต้องติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางจากอุทยานฯ
ซึ่งมีบริการลูกหาบช่วยขนสัมภาระ
ทั้งนี้ทางอุทยานฯ
อนุญาตให้ขึ้นภูได้ตั้งแต่เวลา 08.00-14.00 น. หลักเขตไทย-ลาว
เป็นหลักเขตที่ปักปันเขตแดนระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ทำขึ้นหลังสงครามบ้านร่มเกล้า สิ่งอำนวยความสะดวก ที่จอดรถ
มีที่จอดรถให้บริการแก่นักท่องเที่ยว บริการอาหาร
มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว เฉพาะทางขึ้นภู ลานกางเต็นท์ อุทยานฯ
มีเต็นท์และสถานที่กางเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล
โทรศัพท์ 0 5543 6001-2 หรือเว็บไซต์ www.dnp.go.th
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เปิดให้บริการข้อมูลทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
เวลา 08.00-16.30 น.
หมายเหตุ :
หากนักท่องเที่ยวเดินทางไปถึงอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวแล้ว
ไม่สามารถขึ้นยอดภูสอยดาวได้ทัน (ก่อนเวลา 14.00 น.) อุทยานฯ
ได้จัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการ บริเวณที่ทำการอุทยานฯ
สอบถามข้อมูลได้ที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โทรศัพท์ 0 5543 6001-2
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางจากอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
ไปยังแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก
ในพระราชดำริได้ ภายในสวนฯ จัดแสดงพรรณไม้ประจำถิ่น
ไม้หายากและใกล้สูญพันธุ์ มีโรงเรือนรวบรวมกล้วยไม้ไทยที่หาชมได้ยากกว่า
300 ชนิด รวมถึงพันธุ์ไม้ที่ค้นพบชนิดใหม่ของโลกคือ สร้อยสยาม สอบถามข้อมูล
โทรศัพท์ 0 5531 6713-5
ที่อยู่ : น้ำปาด, อุตรดิตถ์
เครดิต : https://1th.me/0wxk8
น้ำตกแม่พูล
น้ำตกสายนี้
ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมาจากธารน้ำโดยการเทปูนเพื่อทำให้น้ำไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น
ๆ จากภูเขาสูง ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย บริเวณใกล้ ๆ
น้ำตกยังมีสวนลางสาด ผลไม้ที่ขึ้นชื่อของอุตรดิตถ์อีกด้วย
ไฮไลต์น่าสนใจ
ม่อนลับแล ตั้งอยู่บนเส้นทางไปน้ำตกแม่พูล ห่างจากแยกศรีพนมมาศประมาณ 1
กิโลเมตร
นอกจากเป็นร้านอาหารที่มีบรรยากาศแวดล้อมด้วยธรรมชาติบริสุทธิ์แล้ว
ที่นี่ยังมีเรือนทอผ้าม่อนลับแล
ซึ่งได้รวบรวมผ้าทอพื้นเมืองลับแลจากอดีตสู่ปัจจุบัน
รวมทั้งบ้านของฝากม่อนลับแล
ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อสินค้าหัตถกรรมพื้นเมืองอย่างผ้าทอ อาหาร
ของฝากที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองลับแล ผลไม้ตามฤดูกาล
และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
เส้นทางวัฒนธรรมเมืองลับแล
มีบริการนำเที่ยวตามเส้นทางวัฒนธรรมและตำนานเมืองลับแลด้วยจักรยาน
พร้อมมัคคุเทศก์ท้องถิ่น
ที่จะพาคุณไปชมโบราณสถานและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่น่าตื่นตามาก ๆ
คือการขนส่งผลไม้ข้ามภูเขาด้วยลวดสลิงแห่งเดียวในประเทศไทย
พร้อมอิ่มอร่อยกับทุเรียนเลิศรส พันธุ์หลงลับแล หลินลับแล ลางสาด ลองกอง
และลางกอง สมกับที่เมืองลับแลได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งผลไม้ที่มีฉายาว่า
"ภูเขากินได้"
การเดินทาง :
จากอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ถึงอำเภอลับแล ระยะทาง 8 กิโลเมตร
จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 1043 ประมาณ 12 กิโลเมตร
หรือขึ้นรถสองแถวที่ถนนตุลาสถิตย์ ในตัวเมือง รถออกทุก 30 นาที ตั้งแต่เวลา
6.00-17.30 น.
สอบถามข้อมูล : โทรศัพท์ 0 5543 1439
ที่อยู่ : หมู่ 4
บ้านต้นเกลือ ตำบลแม่พูล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
เครดิต : https://1th.me/g1bCN
ม่อนลับแล
ม่อนลับแล ตั้งอยู่บนเส้นทางไปน้ำตกแม่พูล ห่างจากแยกศรีพนมมาศ 1 กิโลเมตร
ภายในมีร้านอาหารบรรยากาศร่มรื่น เรือนทอผ้าม่อนลับแล
พิพิธภัณฑ์ผ้าซิ่นตีนจกเมืองลับแล
รวบรวมผ้าทอพื้นเมืองลับแลที่ทอขึ้นในอดีตและที่ทอในปัจจุบัน
บ้านของฝากม่อนลับแล เป็นร้านจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง
ผ้าทอพื้นเมือง สินค้าที่ขึ้นชื่อเมืองลับแล ผลไม้ตามฤดูกาล
และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
เปิดบริการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.
สอบถามข้อมูล : โทรศัพท์ 0 5543 1439, 08 1785 2477
ที่อยู่ : ลับแล, อุตรดิตถ์
เครดิต : https://1th.me/s0KIR
เขื่อนสิริกิติ์
เขื่อนดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ สร้างขึ้นเพื่อกั้นแม่น้ำน่านที่ไหลลงมาจากอำเภอนาหมื่น
จังหวัดน่าน สันเขื่อนมีความยาว 800 เมตร กว้าง 12 เมตร สูง 113.6 เมตร
เดิมเขื่อนแห่งนี้ชื่อว่า "เขื่อนผาซ่อม" และได้เปลี่ยนชื่อเป็น
"เขื่อนสิริกิติ์"
ภายหลังจากที่ได้รับพระบรมราชานุญาตในการอัญเชิญพระนามาภิไธย
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มาเป็นชื่อเขื่อนแห่งนี้
และจากเดิมที่เคยอยู่ในความดูแลของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ภายหลังได้ติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงาน
จึงได้มอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเป็นผู้รับผิดชอบดูแลต่อไป
ที่อยู่ : บ้านผาซ่อม ตำบลท่าปลา อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์
เครดิต : https://1th.me/AjsMu
วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง
วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง
บ้านทุ่งยั้ง หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งยั้ง วัดแห่งนี้เดิมชื่อ วัดมหาธาตุ
เป็นวัดเก่าแก่มีตำนานเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระพุทธเจ้า
ในวัดประกอบด้วยวิหารแบบล้านนาซึ่งอยู่ด้านหน้า หลังคาซ้อนกัน 3 ชั้น
มีพระประธานนาม “หลวงพ่อประธานเฒ่า”
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะเชียงแสน มีจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ เรื่อง
พระสังข์ทอง ด้านหลังวิหารมีพระบรมธาตุทุ่งยั้ง
ซึ่งเป็นเจดีย์เก่าบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
เป็นแบบลังกาทรงกลมฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม 3 ชั้น ฐานล่างมีเจดีย์องค์เล็ก ๆ
เป็นบริวารอยู่ 4 มุม ฐานชั้นที่ 3 มีซุ้มคูหา 4 ด้าน
สันนิษฐานว่าได้รับการบูรณะขึ้นภายหลัง
การเดินทาง
ออกจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ใช้ทางหลวงหมายเลข 102 ไปประมาณ 3 กิโลเมตร
จะเห็นวัดอยู่ทางซ้ายมือ
ที่อยู่ : หมู่ 3 บ้านทุ่งยั้ง ลับแล, อุตรดิตถ์
เครดิต : https://1th.me/0PuEc
วัดบ้านแก่งใต้
วัดบ้านแก่งใต้ เป็นวัดเก่าแก่อายุประมาณ 300 ปี
แต่เดิมวัดตั้งอยู่กลางลำน้ำน่าน แต่กระแสน้ำไหลเชี่ยว ทำให้ตลิ่งพัง
จึงต้องย้ายมาสร้างใหม่ในสถานที่ปัจจุบัน
วัดนี้ยังเคยเป็นสถานที่ฝึกมวยของพระยาพิชัยเมื่อครั้งท่านยังเป็นเด็ก
นอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อเพชร" พระพุทธรูปปางสมาธิเพชร
ขนาดหน้าตัก 3.80 เมตร สูง 4.50 เมตร เนื่องจากอุโบสถวัดแห่งนี้
สร้างมาประมาณ 60 ปีแล้ว เกิดการชำรุด
ทางวัดจึงบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระประธานหลวงพ่อเพชร
ขณะที่ช่างจากจังหวัดพิจิตรทำการซ่อมแซมองค์พระประธานอยู่นั้น
ก็พบว่ามีปูนจำนวนมากหลุดร่วงออกจากบริเวณท้องของพระประธาน
และพบว่ามีเศียรพระซ่อนอยู่ข้างใน ชาวบ้านจึงเรียกว่า "พระอกแตก"
ต่อมามีผู้เสนอให้เรียกชื่อว่า "พระพุทธซ้อน"
ที่อยู่ : หมู่ที่ 3
ตำบลบ้านแก่ง อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์
เครดิต : https://1th.me/EncsI
วัดท้องลับแล
วัดท้องลับแล ตั้งอยู่ที่ตำบลฝายหลวง เป็นวัดเก่าแก่ สิ่งที่น่าสนใจ คือ
“ภาพสะท้อนหัวกลับ” ของศาลาการเปรียญฝั่งตรงข้ามที่ปรากฏบนผนังในพระอุโบสถ
โดยพระสมชายที่มาบวชที่วัดเมื่อ พ.ศ. 2554
เป็นผู้พบภาพดังกล่าวขณะที่เข้าไปทำวัตรภายในโบสถ์ที่ปิดประตูและหน้าต่าง
ช่วงเวลาที่จะชมภาพหัวกลับได้อย่างชัดเจนคือ วันที่มีแสงแดดจัด ช่วงเวลา
13.00-16.00 น.
ภายในโบสถ์ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องตำนานและวิถีชีวิตของชาวลับแล
มีเรื่องเล่าว่า หมอภูมินทร์ ซึ่งเป็นทันตแพทย์ชาวจังหวัดเชียงใหม่
ได้ฝันเห็นเจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร ปฐมกษัตริย์แห่งนครลับแลมาบอกว่า
มีผู้พบภาพหัวกลับภายในโบสถ์ คุณหมอจึงได้เดินทางมาพิสูจน์
และได้เห็นภาพปรากฏขึ้นจริงตามที่เจ้าฟ้าฮ่ามมาเข้าฝัน
จึงเกิดความศรัทธาและสร้างเจดีย์แก้วขึ้นบริเวณข้างพระอุโบสถ
นอกจากนี้ยังมีหอไตรโบราณกลางน้ำอายุหลายร้อยปี
สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
ที่อยู่ : หมู่ 10 บ้านท้องลับแล ลับแล, อุตรดิตถ์
เครดิต : https://1th.me/uRHaN
แสดงความคิดเห็น