น้ำตกชุมแสง (น้ำตกสายรุ้ง)
ด้วยความที่ภูมิประเทศของจังหวัดระนอง เต็มไปด้วยภูเขาอันสลับซับซ้อนที่เรียงตัวกันสวยงาม จนได้ชื่อว่าเป็น "เมืองในหุบเขา" เป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูง มีน้ำสะสมใต้ดินบนเขาสูง เมื่อไหลมารวมกันเป็นธารน้ำขนาดใหญ่ จึงกลายเป็นสายน้ำตกที่มีพลังสูง สายน้ำร่วงไหลกระเซ็นจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ จนสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล และหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงของระนอง ก็คือ น้ำตกชุมแสง หรือน้ำตกสายรุ้ง เดิมชื่อน้ำตกปากวีป เป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 60 เมตร ไหลลงมาจากหน้าผาหินกว้างประมาณ 20 เมตร สายน้ำตกไหลจากภูเขาสูง เมื่อตกกระทบกับโขดหิน แล้วจะกระจายออกเป็นสายกระทบกับแสงแดดดูคล้ายสายรุ้ง จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกสายรุ้งในช่วงฤดูฝนจะมีน้ำเต็มหน้าผา แม้ว่าหน้าแล้งจะมีน้ำน้อย หากแต่ยังสวยงาม และบรรดานักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้บริเวณแอ่งด้านล่าง แต่ควรระวังเนื่องจากน้ำลึกหลายเมตร ด้านบนของน้ำตก มีทางเดินขึ้นไปชมน้ำตกจากมุมสูง และสัมผัสกับธรรมชาติอันร่มรื่น ที่รายล้อมไปด้วยต้นตะเคียน ไข่เขียวรวมถึงไม้พื้นล่าง เช่น เฟิร์นหวาย
ที่อยู่ : หมู่ 4 ถนนเพชรเกษม กระบุรี, ระนอง
เครดิต : https://1th.me/Q0wVf
อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี
อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี หมู่ที่ 3 บ้านหินช้าง ตำบลปากน้ำ มีพื้นที่ 2,061,278 ไร่ ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2542 ครอบคลุมอำเภอเมืองระนอง อำเภอกระบุรี อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง มีพรมแดนติดกับเมียนมาทางด้านตะวันตก โดยมีแม่น้ำกระบุรีเป็นเส้นแบ่งกั้นพรมแดนของทั้งสองประเทศ รวมถึงมีป่าชายเลนครอบคลุมพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำกระบุรีและบริเวณหมู่กาะในลำน้ำกระบุรี ประกอบด้วย เกาะขวาง เกาะยาว เกาะปลิง เกาะเสียด และเกาะนกเปล้า ทำให้มีความหลากหลายทางชีวภาพของพันธุ์พืชและสัตว์ป่า
อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ คนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
อุทยานฯ มีบ้านพักรวมถึงจุดกางเต็นท์บริการนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี โทร. 0 7798 9817, www.dnp.go.th
การเดินทาง อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองระนอง 18 กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ถึงกิโลเมตรที่ 595 เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ถึงอุทยานฯ สถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ ได้แก่ - แม่น้ำกระบุรี หรือ แม่น้ำปาก เป็นพรมแดนธรรมชาติกั้นระหว่างประเทศไทยและเมียนมา ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำเป็นป่าชายเลนและทิวเขาสลับซับซ้อน รวมทั้งมีเกาะน้อยใหญ่อยู่กลางลำน้ำกระบุรี - น้ำตกปุญญบาล หมู่ที่ 1 ตำบลบางนอน จากริมถนนสามารถมองเห็นน้ำตกอยู่ด้านขวามือ ความสูงประมาณ 20 เมตร ในช่วงฤดูฝนซึ่งมีน้ำมาก ต้นน้ำเกิดจากลำห้วยสายเล็ก ๆ บนป่าสงวนก่อให้เกิดน้ำตกที่สวยงาม มีทั้งหมด 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นที่ 1 ปุญญบาล ชั้นที่ 2 โตนไม้ไผ่ ชั้นที่ 3 โตนไม้ไผ่ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทาง 300 เมตร พื้นที่ด้านล่างบริเวณน้ำตกปุญญบาล เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อน ด้านหน้ามีที่จอดรถ ร้านอาหาร และมีห้องน้ำบริการ การเดินทาง จากตัวเมืองระนอง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) กิโลเมตรที่ 597 น้ำตกอยู่ติดริมถนนด้านขวามือ มีป้ายบอกทางเป็นระยะ
ที่อยู่ : เมืองระนอง, ระนอง
เครดิต : https://1th.me/v3i3M
อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว
ชมความชุ่มฉ่ำจากสายน้ำตกคู่เมืองระนองที่ทุกคนรู้จักกันดี เพราะเมื่อเดินทางผ่านเข้าตัวเมืองระนองครั้งใด จะต้องพบกับสายน้ำสีขาวของน้ำตกหงาวที่กระโจนลงมาจากหน้าผาสูงสายนี้รอต้อนรับทุกครั้ง ที่นี่ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2542 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 417,500 ไร่ โดยไฮไลท์ของอุทยานฯ แห่งนี้ก็คือน้ำตกหงาวนั่นเอง น้ำตกหงาวนั้นเป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชัน โดยช่วงที่มีน้ำมากที่สุดคือเดือนมิถุนายน และช่วงที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวมากที่สุดคือระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ไฮไลท์แห่งน้ำตกหงาว ปูเจ้าฟ้า เป็นปูน้ำตกพันธุ์ใหม่ พบเพียงแห่งเดียวในโลก และมีลักษณะเด่นที่ไม่เหมือนปูน้ำจืดทั่วไป กล่าวคือ ลำตัวและก้ามเป็นสีขาว ขาเดินทั้งสี่คู่ เบ้าตาทั้ง 2 ข้าง และบริเวณปากเป็นสีม่วงดำ อาศัยอยู่ตามใต้ซอกหินหรือใต้ใบไม้บริเวณสองข้างทางลำธารเล็ก ๆ ที่ไหลลงจากน้ำตก โดยเฉพาะในฤดูฝน ดอกโกมาซุม ดอกไม้ประจำจังหวัดระนอง จัดเป็นกล้วยไม้ชนิดหนึ่ง มีชื่อว่า "เอื้องเงินหลวง" (Dondrobium Formosum) มีลักษณะคล้ายดอกแคทลียา กลีบสีขาว มีสี่กลีบ กลีบใหญ่ และมีแต้มสีเหลืองอ่อนตรงกลาง มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ออกดอกในเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมของทุกปี พบมากบริเวณป่าที่มีความชุ่มชื้นสูง โดยเฉพาะป่าที่น้ำตกหงาว - อุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการ ราคา 600-900 บาท
ที่อยู่ : เมืองระนอง, ระนอง
เครดิต : https://1th.me/RvOxM
น้ำตกบกกราย
น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก ครอบคลุมพื้นที่รอยต่อ 2 จังหวัด คือ จังหวัดระนอง และจังหวัดชุมพร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึง 11 ชั้น และมีน้ำไหลตลอดปี แต่ละชั้นมีเส้นทางที่ค่อนข้างชันและคดเคี้ยว สำหรับชั้นที่ 1-3 อยู่ห่างจากลานจอดรถประมาณ 200 เมตร มีน้ำไหลตลอดทั้งปี และมีลักษณะเป็นลำธารไหลเทลาดตามลานหินลดหลั่นกันลงมา ไม่สูงมากนัก ทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว สำหรับนักท่องธรรมชาติที่ต้องการเดินชมน้ำตกทั้ง 11 ชั้น สามารถเดินเลาะลำธารขึ้นแต่ละชั้นได้อย่างสบาย มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 1 กม. คุณจะสัมผัสได้ถึงความร่มรื่นของพันธุ์ไม้ป่านานาชนิดที่รายล้อมตลอดเส้นทาง เช่น ตะเคียนทอง แซะก่อ ตะเคียนทราย ฯลฯ และเป็นที่พำนักของสัตว์ป่ามากมาย เช่น เลียงผา หมีคน กวางป่า อีเก้ง หมีขอ กระทิง วัวแดง สมเสร็จ นกตบยูง และนกกวักลิ่น ฯลฯ ตลอดระยะทาง จะมีป้ายสื่อความหมายเป็นระยะ ๆ ผู้สนใจสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางได้ที่บริเวณสำนักงานฯ นอกจากนี้ เนื่องจากเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จึงมีข้อจำกัดเวลาในการเข้าชม และอย่างน้อยควรมีเวลาทั้งวันในการผจญภัยที่น้ำตกบกกรายแห่งนี้
ที่อยู่ : หมู่ 8 กระบุรี, ระนอง
เครดิต : https://1th.me/bGrEm
เขาฝาชี
ชมทิวทัศน์บนจุดสูงสุดของภูเขาเล็ก ๆ ที่มีลักษณะคล้ายฝาชีซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 259 เมตรแห่งนี้ อยู่ติดกับจุดที่คลองละอุ่นไหลลงแม่น้ำกระบุรี และอ่าวที่กั้นระหว่างจังหวัดระนองกับเมียนมาร์ ยอดเขาฝาชีนั้นเป็นสถานที่ชมวิวที่งดงาม โดยเฉพาะยามตะวันลับฟ้าในตอนเย็น เราจะสามารถมองเห็น วิวแม่น้ำกระบุรีไหลบรรจบกับแม่น้ำละอุ่นก่อนไหลสู่ทะเลอันดามัน ทั้งยังมีเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายเป็นจุด ๆ ก่อเกิดเป็นทัศนียภาพที่น่าประทับใจ อีกทั้งยังสามารถมองเห็นฝั่งเมียนมาร์ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในฤดูหนาวช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคมแสงสีสุดท้ายของท้องฟ้าจะสดสวยงดงามมากที่สุด จุดยุทธศาสตร์สำคัญ ณ เขาฝาชี ในอดีตเขาฝาชีคือจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่กองทัพญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกเข้ามาใช้เป็นฐานทัพ ดังนั้นในบริเวณใกล้เคียงจึงเป็นที่ตั้งฐานทัพญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีหลักฐานสำคัญคือ ซากเรือรบ อุโมงค์ใต้ดิน แนวทางรถไฟ ปัจจุบันมีชุมชนเล็ก ๆ เรียกว่าบ้านเขาฝาชี นั่นเอง และจากจุดนี้เดินเลาะไปตามคลองละอุ่นไม่ไกลนัก คือที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เชิงประวัติศาสตร์สงครามโลก ซึ่งเป็นที่ตั้งของหัวรถจักรเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟเขาฝาชีมาก่อน โดยทางรถไฟสายนี้แยกมาจากชุมพร มีความยาวราว ๆ 90 กิโลเมตร หรือที่รู้จักกันดีว่าทางรถไฟสายคอคอดกระ โดยเริ่มสร้างในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2486 จนมาต้นปี พ.ศ. 2488 ทางสัมพันธมิตรทิ้งระเบิดตามเส้นทางรถไฟสายต่าง ๆ หนักมาก และทางรถไฟสายนี้ก็โดนทำลายด้วย จนต้องหยุดการเดินรถไฟไปโดยปริยาย เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงทางสัมพันธมิตรก็อายัดทางรถไฟสายนี้เอาไว้เป็นสินสงคราม ก่อนที่อังกฤษทำการรื้อเอาตัวรางและไม้หมอนกลับมลายูไป เป็นอันปิดฉากทางรถไฟสายคอคอดกระแห่งนี้ เมื่อทางรถไฟสายนี้ถูกยกเลิกและปิดตัวลง ก็เลยเหลือหัวรถจักรของการรถไฟอยู่ 1 คัน ถูกปล่อยเกาะเอาไว้ที่นี่ จึงกลายเป็นที่มาของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สงครามโลกและเป็นอีกมุมอดีตที่น่าสนใจของเขาฝาชี
การเดินทางโดยไปตามทางหลวงหมายเลข 4 ประมาณกิโลเมตรที่ 580 เลี้ยวซ้ายตรงทางแยกมีป้าย "ศูนย์โทรคมนาคมเขาฝาชี" ขับรถขึ้นเขาไปประมาณ 3 กิโลเมตร
ที่อยู่ : หมู่ 4 ถนนเพชรเกษม ละอุ่น, ระนอง
เครดิต : https://1th.me/ajUmV
แสดงความคิดเห็น