ธรรมชาติแห่งเมืองจันทบุรี

หาดแหลมสิงห์

ชายหาดเงียบสงบของจันทบุรีที่เต็มไปด้วยโรงแรมรีสอร์ตน่าพัก และร้านอาหารริมทะเล เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติท้องทะเลบริสุทธิ์ และปรารถนาพักผ่อนในบรรยากาศส่วนตัว บรรยากาศร่มรื่นด้วยทิวสนยาวไปตามแนวของชายหาด มีที่นั่งพักผ่อนพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวตั้งเรียงรายอยู่ริมหาด ตำนานแห่งแหลมสิงห์ ที่มาของชื่อ แหลมสิงห์ เกิดจากตำนานสิงโตคู่ที่แหลมสิงห์ ซึ่งมาจากภูเขาลูกหนึ่งชื่อ "เขาแหลมสิงห์" ตั้งอยู่บริเวณปากน้ำจันทบุรี 

เหตุที่เรียกว่าเขาแหลมสิงห์ เพราะด้านหน้าเขามีหินเป็นแก่งเกาะยื่นล้ำออกไปในทะเล และในบรรดาก้อนหินเหล่านี้ มีอยู่ 2 ก้อนลักษณะคล้ายตัวสิงโต มีหัว มีลำตัว มีหาง มีเท้า และดวงตา มีขนาดลำตัวยาว 6 เมตร กว้าง 1.5 เมตร สูงจากพื้นน้ำทะเล 2.5 เมตร ยืนคู่กันล้ำเข้าไปในทะเล สิงโตคู่นี้เป็นที่สักการะนับถืออย่างยิ่งของชาวประมง ถึงกับมีนิทานโบราณปรัมปราเล่าว่า เมื่อก่อนนี้ไม่มีสิงโตคู่นี้ แต่กล่าวกันว่าบนเขาแหลมสิงห์ มีสิงโตจริง ๆ อยู่คู่หนึ่ง สิงโตตัวผู้ตัวเมียคู่นี้ไปไหนด้วยกันเสมอ และลงอาบน้ำ ทะเลด้วยกันทุกวัน ต่อมามีคนฝรั่งเศสกลุ่มหนึ่งคอยดักทำร้ายสิงโตโดยใช้วัตถุระเบิดชนิดหนึ่ง จนสิงโตตัวหนึ่งถึงแก่ความตาย อีกตัวหนึ่งวิ่งหนีลงทะเลทัน และตัวที่หนีลงทะเลไปนั้น เมื่อตายในน้ำแล้วก็มากลายรูปเป็นสิงโตศิลายืนหยัดอยู่ริมทะเล ส่วนตัวที่ถูกยิงตายอยู่ที่ริมฝั่งทะเล เหลือเพียงแต่ซากหินปรักหักพังยืนข้างศิลาตัวใหญ่ พอจะจับสังเกตเป็นเค้าว่ามีแววเป็นรูปสิงโตได้บ้าง หินสิงโตนี้ใช้เป็นจุดสังเกตสำหรับเรือเดินทะเลมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 12 แล้ว กล่าวไว้ในจดหมายเหตุเมื่อครั้งราชวงศ์สุ่ยเดินทางออกจากกวางตุ้งไปยังเมืองซิตู้ ซึ่งเข้าใจว่าอยู่ทางภาคใต้บนคาบสมุทรไทย โดยหลังจากเรือผ่านหินรูปสิงห์ไปได้สองสามวันก็จะเห็นทิวเขาในเขตแคว้นหลั่งยะสิ่ว ซึ่งน่าจะหมายถึงเมืองใหญ่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ต่อจากนั้นก็วกเรือลงมาทางใต้ผ่านเกาะรังไก่ไปยังแคว้นซิตู้ โขดหินรูปสิงห์นี้เป็นที่รู้จักกันต่อมาจนกระทั่งในยุคที่ชาวตะวันตกเข้ามาแสดงหาอาณานิคม ต่อมามีนายทหารเรือของฝรั่งเศสทดลองความแม่นปืนด้วยการใช้ปืนเรือยิงหัวสิงห์กระเด็นตกน้ำไป ทำให้รูปสิงห์ที่เห็นอยู่นี้ขาดความสมบูรณ์แต่ดั้งเดิมไป

ที่อยู่ : แหลมสิงห์, จันทบุรี

เครดิต : https://1th.me/nEt8D

 

 

หาดเจ้าหลาว

ชายหาดยอดฮิตติดอันดับต้น ๆ ของจันทบุรีที่ทอดยาวไปถึงเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน เพียบพร้อมด้วยความสุขสำหรับคนรักทะเล ด้วยบรรยากาศเงียบสงบ น้ำทะเลใส ทุกสุดสัปดาห์จึงมีนักท่องเที่ยวมาเยือนหาดเจ้าหลาวอยู่เป็นประจำ บ้างก็นั่งพักผ่อนชมวิวริมหาด สนุกกับกิจกรรมทางน้ำอย่างบานาน่าโบ๊ต ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น หรือนั่งเรือท้องกระจกชมโลกใต้ทะเล สำหรับคนที่ไม่อยากตัวเปียก และปิดท้ายด้วยซีฟูดมื้ออร่อยจากร้านอาหารหลายแห่งที่ให้บริการ

 

 

ที่อยู่ : ท่าใหม่, จันทบุรี

เครดิต : https://1th.me/98U1A

 

 

อ่าวกระทิง

เป็นอ่าวเล็ก ๆ ที่มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร มีหาดทรายยาวประมาณ 300 เมตร อยู่ในวนอุทยานเขาแหลมสิงห์ มีบรรยากาศสงบมากจนแทบจะเป็นอ่าวส่วนตัวเลยทีเดียว ด้านหลังเป็นเขาอยู่ฝั่งตรงข้ามกับแหลมสิงห์ ห่างจากสะพานแหลมสิงห์เพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น และเหตุที่ชื่อว่าอ่าวกระทิงนั้น เนื่องมาจากในบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยต้นไม้ที่มีชื่อว่า ต้นกระทึง จำนวนมาก ชาวบ้านจึงเรียกว่าอ่าวกระทึง แต่พอนานไปชาวบ้านเรียกกันจนเพี้ยนเสียงกลายเป็น อ่าวกระทิง นั่นเอง ชายหาดแห่งนี้ไม่มีที่พักไว้บริการแต่นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่วนอุทยานฯ เพื่อขอพักแรมได้ โดยสามารถนำเต็นท์มากาง ซึ่งทางวนอุทยานฯ มีบริการห้องอาบน้ำ

การเดินทาง : โดยรถยนต์ สามารถเดินทางมาจากอำเภอท่าใหม่ใช้เส้นทางท่าใหม่-บางกะไชย หรือถนนบูรพาชลทิศ (เลียบทะเลจันทบุรี) มาถึงที่ทำการวนอุทยานฯ ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร หรือจะใช้เส้นทางมาจากหาดแหลมสิงห์ข้ามสะพานปากน้ำแหลมสิงห์ไปยังที่ทำการวนอุทยาน แล้วเดินเท้าต่อลงไปที่หาดอีกเพียง 400 เมตร

 

 ที่ตั้ง : วนอุทยานเขาแหลมสิงห์ หมู่ที่ 1 ตำบลบางกะไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี 22120 

เครดิต : https://1th.me/JjIQy

 

 

เขื่อนคีรีธาร

เขื่อนคีรีธาร ตั้งอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี สร้างโดยกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เป็นเขื่อนกั้นน้ำเอนกประสงค์ ทั้งการผลิตกระแสไฟฟ้า การชลประทาน การประมง และการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในฤดูฝน เขื่อนคีรีธาร เป็นเขื่อนดินสูง 33 เมตร ปิดกั้นลำน้ำห้วยสะพานหิน เหนือบ้านห้วยสะพานหิน 30 กิโลเมตร ปริมาณน้ำที่กักเก็บเฉลี่ยได้ปีละ 76 ล้านลูกบาศก์เมตร ผันผ่านอุโมงค์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ลงสู่ห้วยทัพนคร ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของแม่น้ำจันทบุรี ในการผันน้ำดังกล่าวก่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างระดับน้ำในอ่างและน้ำในห้วยทัพนคร 125 เมตร ทำให้สามารถติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังน้ำได้ 12,200 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นกระแสไฟฟ้าเฉลี่ยปีละ 27 ล้านกิโลวัตต์ ปริมาณน้ำที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว จะไหลลงสู่แม่น้ำจันทบุรี ซึ่งสามารถนาไปใช้ในการเกษตร การประปาและที่สำคัญที่สุดคือนำไปใช้ในการป้องกันน้าเค็มของจังหวัดจันทบุรีต่อไป จุดเด่นที่สำคัญคือ เขื่อนคีรีธารตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 205 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง บริเวณอ่างเก็บน้ำของเขื่อนคีรีธารที่อยู่เหนือสันเขื่อนขึ้นไปยังคงความเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามเหมาะแก่การเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ และศึกษาธรรมชาติ บริเวณริมเขื่อนเต็มไปด้วยต้นไม้ สมุนไพรท้องถิ่นต่าง ๆ ขึ้นเรียงราย เช่น ต้นสำรอง ต้นไม้ประจำจังหวัดจันทบุรี ต้นกันเกรา เมื่อน้ำลดนักท่องเที่ยวจะตั้งเต็นท์บริเวณรอบ ๆ เขื่อน และชื่นชมความงามของธรรมชาติรอบเขื่อน เขื่อนคีรีธาราเป็นเขื่อนที่เน้นไว้ใช้สำหรับเกษตรกรรม ยังไม่มีการผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว จึงยังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก นักท่องเที่ยวจึงสามารถสัมผัสกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่

 

ที่อยู่ : ขลุง, จันทบุรี

เครดิต : https://1th.me/p8FQs

 

 

อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว

อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง และอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์ เทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ทำให้มีอากาศจะเย็นสบายตลอดทั้งปี จุดสูงสุดของพื้นที่อยู่ที่ ยอดเขามาบหว้ากรอก และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย อยู่ห่างจากจังหวัดจันทบุรีประมาณ 14 กิโลเมตร ถนนลาดยางตลอดสายทำให้สะดวกสบายในการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ 

ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ถูกเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 11 ของประเทศไทย โดยใช้ชื่อว่า อุทยานแห่งชาติเขาสระบาป แต่ต่อมา นายผจญ ธนมิตรามณี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสระบาป ได้ทำหนังสือขอเปลี่ยนชื่อ อุทยานแห่งชาติเขาสระบาป เป็น อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เนื่องจาก น้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ มีน้ำตกตลอดปี อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป และเป็นจุดเด่นของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2525 เห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อเป็น อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ น้ำตกพลิ้วซึ่ง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงาม มีน้ำตลอดปี ประกอบด้วยสายธาร 2 สาย สายหนึ่งไหลลดหลั่นผ่านซอกหินผา อีกสายหนึ่งมีขนาดเล็กกว่า แต่ทิ้งตัวลงมาจากผาสูง 20 เมตร ทั้งสองสายไหลมารวมกันในแอ่งน้ำใสสะอาด มากสามารถมองเห็นพื้นล่างซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินและทรายในระดับลึกกว่า 2 เมตร ภายในบริเวณน้ำตกและลำคลอง มีปลาใหญ่น้อยหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นที่ตื่นตาตรึงใจกับฝูงปลาแก่ผู้ที่ไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะ ปลาพลวงหินเหล่านี้ โดยคำว่า กล่าวกันว่าเป็นภาษาชอง ซึ่งเป็นเจ้าของถิ่นเดิม แปลว่า ทราย หรือ หาดทราย แต่เข้าใจกันว่า น้ำตกพลิ้ว คงจะได้ชื่อมาจากต้นไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งชอบขึ้นในดินปนทราย เป็นไม้เถามีดอกเป็นผลเล็กขนาดลูกเกด สีเหลืองอมแดง ขึ้นทั่วไปในแถบนี้ ขณะเดียวกัน บริเวณ น้ำตกพลิ้ว ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งทาง อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ได้จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ สภาพป่า และพรรณพืชต่าง ๆ นอกจากนี้สถานท่องเที่ยวอีกแห่งที่น่าสนใจ คือ สถูปพระนางเรือล่ม อยู่ในบริเวณ น้ำตกพลิ้ว สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2424) เพื่อเป็นที่ระลึกแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ภายในสถูปพระนางเรือล่มบรรจุพระอังคารของพระนางเจ้าฯ ด้วย นอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวข้างต้นแล้ว ภายในอุทยานยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกมากมายเช่น น้ำตกคลองนารายณ์ อ่างศาล อ่างสรง หรือ อ่างหงส์ ถ้ำพระนารายณ์ น้ำตกตรอกนอง น้ำตกมะกอก อ่างเก็บน้ำห้วยตาโบ และมีจุดชมทิวทัศน์ เป็นจุดที่สามารถมองเห็นสภาพป่าที่สมบูรณ์ในเขตอุทยานแห่งชาติ เห็นสวนผลไม้ สวนยาง และเขตที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน และเห็นทะเลในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ทางอุทยานมีบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว โดยอุทยานแห่งชาติจัดเตรียมเต็นท์และสถาน ที่กางเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ โดยการสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ตำบลพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี 22190 โทรศัพท์ 0 3943 4528 โทรสาร 0 3943 4528 อีเมล namtokphlio@hotmail.com

 

ที่อยู่ : 41 หมู่ 12 แหลมสิงห์, จันทบุรี

เครดิต :  https://1th.me/53eqP