26/10/64

ไหว้พระที่สุพรรณบุรี

วัดบ้านกร่าง

วัดบ้านกร่าง ตั้งอยู่ริมฝั่งทิศตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณ (แม่น้ำท่าจีน) เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา คาดว่าน่ามีอายุร่วม 400 ปี จุดเด่นของวัดอยู่ตรง กรุพระขุนแผนบ้านกร่าง ซึ่งเป็นเนื้อดินเผาศิลปะอยุธยา เชื่อกันว่า หากชายใดห้อยกรุพระขุนแผนนี้แล้ว จะแคล้วคลาดคงกระพัน จึงสันนิษฐานกันว่า พระเครื่องเหล่านี้ น่าจะถูกสร้างขึ้นหลังสงครามยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับพระมหาอุปราช เมื่อตอนยกทัพกลับผ่านอำเภอศรีประจันต์ ได้พักทัพริมฝั่งแม่น้ำสุพรรณบุรี ทรงรับสั่งให้ทหารสร้างพระเครื่อง ว่ากันว่าเป็นจำนวนถึง 84,000 องค์ แล้วบรรจุในกรุวัดบ้านกร่าง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ทหารที่เสียชีวิต พระพิมพ์บ้านกร่าง จึงเป็นพระที่มีความหมายมาก โดยพิมพ์แกะเป็นสององค์คู่กัน โดยสมมติให้เป็นองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถคู่กัน ปัจจุบันพระรูปแบบนี้นับวันยิ่งหายากยิ่งนัก ภายในวัดยังเต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจมากมาย เช่น พระอุโบสถและวิหาร ซึ่งเป็นโบราณสถานเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ภายในประดิษฐานพระประธานองค์ใหญ่ ศิลปะสมัยอู่ทอง ใบเสมาที่เรียงรายรอบพระอุโบสถมีที่มาจากการนำพระวัดกร่างพิมพ์ทรงพลใหญ่มาจำลองให้มีขนาดเท่าใบเสมา ทำให้ใบเสมาของวัดนี้มีลักษณะโดดเด่นไม่เหมือนวัดใด ส่วนวิหารมีอายุราว 450 ปี ภายในมีหลวงพ่อแก้วและพระประธาน ถัดมาเป็น "มณฑป" ด้านในมีรอยพระพุทธบาทจำลอง สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476 ด้านหลังวิหาร ประดิษฐาน เจดีย์ ที่ได้รับการปฏิสังขรณ์ใหม่ สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระเครื่องตระกูลวัดบ้านกร่าง(พระขุนแผน) ภายในพระเจดีย์ เคยพบพระพุทธรูปเนื้อสัมฤทธิ์จำนวน 20-30 องค์ รวมไปถึง พระเครื่อง ซึ่งมีลักษณะเป็นแก้วสีเขียว ริมแม่น้ำยังมี "เจดีย์กลางน้ำ" ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 อายุราว 150 ปี มีลักษณะย่อมุมไม้สิบสอง เดิมทีองค์พระเจดีย์ตั้งอยู่กลางแม่น้ำท่าจีน สร้างขึ้นไว้ให้คนทั่วไปได้สักการบูชาในวันลอยกระทง แต่เนื่องจากกระแสน้ำเปลี่ยนทิศ จึงเป็นเหตุให้พระเจดีย์ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น.สอบถามเพิ่มเติมได้ที่+66 3552 5867, +66 3552 5880
 
 
 
 
 
 
ที่อยู่ : หมู่ 2 ศรีประจันต์, สุพรรณบุรี
เครดิต : https://1th.me/4OGbH



วัดหัวเขา

เมื่อเอ่ยถึงวัดหัวเขา หลายคนจะนึกถึงหลวงพ่ออิ่ม หนึ่งในพลวงพ่อของวัดหัวเขาที่ชาวไทยจำนวนมากให้ความเคารพนับถือ เนื่องจากเป็นผู้ที่เคร่งในพระธรรมวินัยเป็นอย่างมาก เดิมทีหลวงพ่ออิ่มเป็นพระธุดงค์มาจากเมืองอื่น แล้วเดินทางมาปักกลดปฏิบัติธุดงควัตรอยู่บริเวณบ้านหัวเขา ซึ่งแต่เดิมเป็นป่ารกทึบ ท่านเห็นว่าอาณาบริเวณนี้มีความสงบร่มรื่นเหมาะแก่การสร้างเป็นวัดเป็นอย่างมาก จึงได้สร้างเป็นวัดขึ้นมาคือ "วัดหัวเขา" และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ต่อมาหลวงพ่ออิ่มเดินทางไปศึกษากับหลวงปู่และหลวงพ่ออีกหลายท่าน ซึ่งล้วนได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหลวงพ่อปานแห่งวัดบางนมโคม ถึงกับยกย่องว่าหลวงพ่ออิ่มเป็นพระเจดีย์ ซึ่งหมายถึงเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่น่าเคารพยกย่องเหมือนกับเป็นพระสถูปหรือพระเจดีย์ที่ควรค่าแก่การสักการบูชาเลยทีเดียว เมื่อหลวงพ่ออิ่มได้ศึกษาเล่าเรียนเสร็จ จึงได้กลับมาจำพรรษาที่วัดหัวเขาต่อ ในช่วงเวลานั้น ท่านได้พัฒนาวัดแห่งนี้จนกลายเป็นวัดที่เจริญมากในสมัยนั้น มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย และได้สร้างเครื่องรางของขลังหลายชนิด เช่น ตะกรุดแบบต่าง ๆ รวมทั้งผ้ายันต์ เหรียญปั๊ม เหรียญหล่อโบราณ รูปหล่อโบราณ (นางกวัก) แหวนแบบต่าง ๆ พระผงใบลาน เป็นต้น ซึ่งเครื่องรางของขลังของพลวงพ่อนั้น ได้รับการกล่าวขานในวงการพระเครื่องว่า มีคุณวิเศษในด้านบันดาลความมั่งมีศรีสุข เมตตามหานิยม ไปมาค้าขายดีมาก อยู่ยงคงกระพันชาตรีเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ บรรยากาศของวัดจะคึกคักมากเป็นพิเศษโดยเฉพาะช่วงงานประเพณีตักบาตรเทโว เนื่องจากทุก ๆ ปีทางวัดจะมีการจัดงานประเพณีตักบาตรเทโวขึ้น หลังจากวันออกพรรษา 1 วัน คือ แรม 2 ค่ำ เดือน 11 หากนักท่องเที่ยวมีโอกาสมาเยือนในช่วงเวลาดังกล่าว คุณจะพบกับผู้คนที่มาร่วมทำบุญกันเป็นจำนวนมาก และได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สนุกสนานไปอีกแบบ 
เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ +66 3552 5867, +66 3552 5880






ที่อยู่ : หมู่ 2 เดิมบางนางบวช, สุพรรณบุรี
เครดิต : https://1th.me/oJ0Ng
 
 
 

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

วัดพระศรีรัตนมหาธาต ตั้งอยู่บนถนนสมภารคง แยกจากถนนมาลัยแมนไปประมาณ 300 เมตร ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี ในสมัยก่อนเป็นศูนย์กลางของเมืองสุพรรณภูมิ ถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองที่ปลูกสร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าอู่ทอง และมีอายุไม่ต่ำกว่า 600 ปี จุดเด่นของวัดอยู่ตรงองค์พระปรางค์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของพระพิมพ์ผงสุพรรณบุรี ที่โด่งดังมากในวงการพระเครื่อง และเป็นหนึ่งใน "เบญจภาคี" 5 พระเครื่องยอดนิยม อันได้แก่ พระสมเด็จนางพญาของสมเด็จพระพุทธาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร, พระผงสุพรรณ จังหวัดสุพรรณบุรี, พระสมเด็จนางพญา จังหวัดพิษณุโลก, พระทุ่งเศรษฐี จังหวัดกำแพงเพชรและพระรอด จังหวัดลำพูน ทั้งนี้ นักโบราณคดีจำนวนไม่น้อยให้ความเห็นว่า ปรางค์องค์นี้น่าจะเป็นศิลปะการก่อสร้างสมัยอู่ทองสุพรรณภูมิ เพราะจากหลักฐานการก่อสร้างองค์ปรางค์เป็นการก่ออิฐไม่ถือปูน ซึ่งเป็นวิธีการเก่าแก่ก่อนสมัยอยุธยา ภายในวัดยังมีโบราณสถานที่สำคัญคือ พระปรางค์องค์ใหญ่ ซึ่งเป็นเจดีย์ประธานของวัดศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น ด้านหน้าพระปรางค์ ก่อด้วยอิฐสอดิน ผิวด้านนอกฉาบปูน ฐานทำเป็นชุดฐานบัวลูกฟักสี่เหลี่ยมย่อมุมซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป 4 ชั้น รองรับองค์เรือนธาตุ นอกจากนี้ ยังมีเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม จำนวน 2 องค์ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของพระปรางค์ อุโบสถ วิหารน้อย และซากเจดีย์รายจำนวน 2 องค์ ภายในวิหารยังมีพระพุทธรูปหินทรายอีกจำนวนหนึ่งด้วยเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น.สอบถามเพิ่มเติมได้ที่+66 3552 5867, +66 3552 5880






ที่อยู่ : เมืองสุพรรณบุรี, สุพรรณบุรี
เครดิต : https://1th.me/TlBC0
 
 
 

วัดเขาดีสลัก

หากมาเยือนถึงวัดเขาดีสลัก สิ่งแรกที่คุณต้องแวะไปเยี่ยมชมคือรอยพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งสร้างด้วยแผ่นหินทรายสีแดง รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีลายกลีบบัวโดยรอบพระบาท โดยในปี พ.ศ. 2535 ฯ พณฯ บรรหาร ศิลปอาชา ให้กรมศิลปากรมาพิสูจน์รอยพระพุทธบาท สรุปได้ว่าเป็นสมัยใกล้เคียงกับพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี ต่อมาทางกรมเลยได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุและมีการสร้างมณฑปบนยอดเขาครอบเอาไว้อย่างสวยงาม ต่อมาเมื่อมีการสร้างถนนขึ้นเขา จึงถูกพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยใช้เวลา 5 ปี จุดเด่นของรอยพระพุทธบาทจำลองนั้น อยู่ที่ปลายนิ้วพระบาทยาวไม่เสมอกัน ข้อนิ้วพระบาทมี 2 ข้อ โดยข้อนิ้วพระบาทข้อแรกทำลายขมวดเป็นรูปก้นหอยตามคัมภีร์มหาบุรุษลักษณะหรือมหาปริสลักขณะ ดังที่พรรณนาไว้ในปฐมสมโพธิกถาฉบับภาษาบาลี รวมทั้งในคัมภีร์ลิลิตวิสูตรฉบับภาษาสันสกฤต ข้อนิ้วที่ 2 ทำเป็นลายก้นขดหรือใบไม้ม้วนลักษณะคล้ายกับลวดลายพันธุ์พฤกษาซึ่งเป็นที่นิยมในศิลปะแบบทวารวดี โดยจะเห็นจากลวดลายปูนปั้นประดับ ศาสนสถานหรือลวดลายประดับประติมากรรม เนื่องในพุทธศาสนาสมัยทวารวดี บริเวณฝ่าพระบาททำเป็นรูปธรรมจักรขนาดเล็ก มีกงล้อธรรมจักรจำนวน 16 ซี่ อยู่กลางฝ่าเท้าและรายล้อมด้วยภาพสลักรูปมงคล 108 ประการในกรอบวงกลม ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจากรอยพระพุทธบาทที่พบแห่งอื่น คือ รอยพระพุทธบาทนูน ขนาดกว้างประมาณ 65.5 เซนติเมตร ยาว 141.5 เซนติเมตร อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 14-16 นอกจากนี้ ภายในวัดยังพบโพรงหินซึ่งมีพระพุทธรูปอยู่ด้านใน รวมทั้งมีโบราณวัตถุต่าง ๆ อีกหลายชนิดให้ชวนทึ่ง เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 09.00-16.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 3542 1444, 08 1197 4974
 
 
 
 
ที่อยู่ : หมู่ที่ 5 อู่ทอง, สุพรรณบุรี
เครดิต : https://1th.me/ntwHj



วัดพระรูป

ริมฝั่งทิศตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน ตรงข้ามตลาดสุพรรณบุรี เป็นที่ตั้งของวัดพระรูป วัดเก่าแก่ที่มีอายุตั้งแต่สมัยอู่ทองตอนปลาย สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด คือ "พระพุทธรูปปางไสยาสน์" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เณรแก้ว ซึ่งมีพระพักตร์กลมยาวคล้ายผลมะตูม ผินพระพักตร์สู่ทิศตะวันออก สันนิษฐานว่าสร้างในราว พ.ศ. 1800-1893 และถือว่าเป็นพระนอนที่มีพระพักตร์งามที่สุดในประเทศไทย ต่อมาเป็น "รอยพระพุทธบาทไม้" เป็นโบราณวัตถุที่หาค่าไม่ได้ ศิลปะการแกะสลักงดงาม ทำจากไม้ประดู่แกะสลักทั้ง 2 ด้าน และมีเพียงชิ้นเดียวในประเทศไทย เดิมพระพุทธบาทไม้อยู่ที่วัดเขาดิน เมื่อตอนเกิดศึกไทย-พม่า พระภิกษุรูปหนึ่งเกรงจะถูกทำลาย จึงนำล่องลงมาทางน้ำแล้วเอาขึ้นที่วัดพระรูป ปัจจุบัน ทางวัดได้นำกล่องพลาสติกใสมาหุ้มรอยพระพุทธบาทไม้ไว้ เพื่อป้องกันการชำรุด ภายในบริเวณวัดยังมีเจดีย์อู่ทองและซากเจดีย์สมัยทวารวดี ระฆังสัมฤทธิ์ และธรรมาสน์สังเค็ด (วัตถุที่ถวายแก่สงฆ์ผู้เทศน์หรือผู้ชักบังสุกุลเมื่อเวลาปลงศพ) ฝีมือช่างอยุธยาตอนปลาย นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นกรุของพระตระกูลขุนแผนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการพระเครื่องจำนวนมาก โดยพระกรุของวัดพระรูปนั้น พบได้ตามลานดิน กระจัดกระจายอยู่ภายในบริเวณวัดพระรูป เริ่มค้นพบกันมากในปี พ.ศ. 2508 ในเวลานั้น ทางวัดพระรูปจะสร้างพระอุโบสถใหม่แทนหลังเก่า ซึ่งชำรุดทรุดโทรม ด้วยการสร้างคร่อมหลังเก่า พระอาจารย์ดี รองเจ้าอาวาสในสมัยนั้น จึงป่าวประกาศชักชวนชาวบ้านให้มาช่วยกันขุดหลุมรอบ ๆ โบสถ์หลังเก่า โดยแจ้งว่า หากใครพบพระก็เอาไป ชาวบ้านทั้งหลายรู้ดีว่าใต้พื้นดินนั้นมีพระตระกูลขุนแผนอยู่ จึงอาสามาขุดกันจำนวนมาก พอขุดไปก็พบพระมากมาย ภายหลังยังมีการทำเช่นนี้อีกหลายครั้ง และทุกครั้งที่มีการขุด ก็พบพระเครื่องเป็นร้อยองค์ ทั้งนี้ พระตระกูลขุนแผนที่พบในบริเวณวัดพระรูปนั้น มีลักษณะเป็นเป็นเนื้อดินเผา โดยมีอยู่ทั้งหมด 5 พิมพ์ คือ พระขุนแผน พระขุนไกร พระพลายงาม พระพันวษา พระกุมารทอง หรือพระยุ่ง เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ +66 3552 5867, +66 3552 5880




ที่อยู่ : ถนนขุนช้าง เมืองสุพรรณบุรี, สุพรรณบุรี
เครดิต : https://1th.me/Zgml0
 

 

แสดงความคิดเห็น

Whatsapp Button works on Mobile Device only