8/10/64

ท่องเที่ยวลำปาง

วัดศรีรองเมือง

ถ้าลองเดินทางตามรอยวัดพม่าในลำปาง คุณจะพบว่ามีวัดพม่าหลายแห่งซุกซ่อนอยู่ในเมืองนี้ ด้วยครั้งหนึ่งคนพม่าเดินทางเข้ามาทำกิจการไม้ในลำปางมากมาย และได้ทำบุญสร้างวัดตามความเชื่อของตน วัดนี้ก็เช่นกัน สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยคหบดีที่ร่ำรวยจากการทำไม้สมัยนั้น มีสถาปัตยกรรมน่าสนใจภายในวัดคือวิหารไม้ซึ่งมีหลังคาจั่วซ้อนกันเป็นชั้นเล็กชั้นน้อย มียอดแหลม 9 ยอด ศิลปะแบบพม่า เพดานประดับด้วยลายไม้แกะสลัก และเสากลมใหญ่จำหลักลวดลายที่ประดับด้วยกระจกสีตั้งแต่พื้นจรดเพดานด้วยช่างที่มีฝีมือประณีตวิจิตรสวยงามมาก

 

ที่อยู่ : เมืองลำปาง, ลำปาง

เครดิต : http://1ab.in/PTd

 

วัดศรีชุม

วัดศรีชุม จัดเป็นวัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดที่มีอยู่ในประเทศไทยในบรรดาทั้งหมด 31 วัด ซึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2433 โดยคหบดีพม่าชื่ออูโยผู้ติดตามชาวอังกฤษเข้ามาทำงานด้านป่าไม้ในประเทศไทย และความเชื่อของคนพม่า เมื่อมีฐานะขึ้นมาเมื่อไหร่จะต้องทำบุญด้วยการสร้างวัด อูโยจึงได้สร้างวัดศรีชุมแห่งนี้ขึ้นนั่นเอง ความโดดเด่นของวัดนี้คือพระวิหาร ที่เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ ตกแต่งด้วยศิลปะแบบล้านนาและพม่า มีหลังคาเครื่องไม้ยอดแหลมแกะสลักเป็นลวดลายสวยงามมาก และวัดศรีชุมได้รับการจดทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2524 อย่างไรก็ตาม ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้พระวิหารทั้งหลังไปเมื่อตอนเช้าตรู่ของวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เหลือเพียงไม้แกะสลักลวดลายพรรณพฤกษาฉลุโปร่งตรงซุ้มประตูทางขึ้นวิหารเท่านั้นซึ่งปัจจุบันได้มีการบูรณะวัดนี้ขึ้นใหม่ และนำชิ้นส่วนเครื่องประดับอาคารที่ถูกไฟไหม้ไปจัดแสดงไว้ด้านหลังวิหาร


ที่อยู่ : เมืองลำปาง, ลำปาง

เครดิต : http://1ab.in/PTi

 

วัดปงสนุกเหนือ

วัดปงสนุกแห่งนี้สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยเจ้าอนันตยศ ซึ่งเป็นราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญไชย (จังหวัดลำพูนในปัจจุบัน) เมื่อครั้งเสด็จมาสร้างเขลางค์นคร (จังหวัดลำปางในปัจจุบัน) เมื่อปี พ.ศ. 1223 ทั้งนี้ชื่อของ วัดปงสนุก อาจฟังแล้วรู้สึกแปลกหูไปบ้าง แต่ทราบหรือไม่ว่าที่มาของชื่อวัดนี้ซึ่งบางตำนานกล่าวไว้ว่าเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2364 เมืองลำปางและเมืองเชียงใหม่ยกทัพเข้าตีเมืองเชียงแสน แต่เมื่อไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งได้ชาวเมืองเหล่านั้นจึงถูกต้อนมายังฝั่งเวียงเหนือของนครลำปาง โดยหนึ่งในกลุ่มชนนั้นก็มีชาวปงสนุกรวมอยู่ด้วย และขณะเดียวนั้นชาวเมืองพะเยาก็ได้อพยพมายังฝั่งเวียงเหนือเพื่ออาศัยอยู่เช่นเดียวกัน ต่อมาเมื่อบ้านเมืองสงบแล้วชาวพะเยาก็ย้ายกลับบ้านเกิดเมืองนอนของตน เหลือไว้แต่เพียงชาวปงสนุกที่ยังคงอยู่ ดังนั้นจึงได้เรียกชื่อวัดและชื่อหมู่บ้านตามเผ่าพันธุ์ของตนเอง และคำว่า ปงสนุก นั้นก็หมายถึงพงศ์เผ่าแห่งความรื่นเริง วิหารพระเจ้าพันองค์ หลังนี้เองที่ได้รับรางวัลการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมดีเด่นจากยูเนสโก้เมื่อปี 2008 ที่ผ่านมา (Award of Merit Wat Pongsanuk; Asia-Pacific Heritage Awards for Culture Herritage Conservation from UNESCO Year 2008)โดยวิหารพระเจ้าพันองค์ที่ได้รับรางวัลหลังนี้สร้างด้วยไม้ เป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวของประเทศ ตัวอาคารแสดงถึงการรวบรวมทั้งงานด้านจิตรกรรม สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างไทย จีน พม่า ผสมผสานเข้าไว้ด้วยกันอย่างสวยงาม โครงสร้างของวิหารมีลักษณะเป็นมณฑปเปิดโล่งตรงกลางประดิษฐานพระพุทธรูปสี่องค์ พระพักตร์แต่ละองค์ก็หันออกไปยังทิศทั้งสี่ ในส่วนของหลังคามีลักษณะซ้อนกันสามชั้นซึ่งตกแต่งไว้อย่างสวยงาม รวมไปถึงเสาสี่เหลี่ยมที่ค้ำตัววิหารก็มีลวดลายอันน่าวิจิตรปรากฏให้เห็นอยู่แทบทุกต้น และบริเวณด้านบนรอบในของตัววิหารนั้นได้รับการประดับด้วยพระพิมพ์องค์เล็กจำนวนมากถึง 1,080 องค์ นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ วิหารพันองค์ ที่ใช้เรียกกันอย่างติดปาก

 

ที่อยู่ : เมืองลำปาง, ลำปาง

เครดิต : http://1ab.in/PTl

 

วัดพระธาตุลำปางหลวง

ปฐมบทแห่งการเดินทางท่องเที่ยวลำปาง ต้องเริ่มต้นที่ปูชนียสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองแห่งนี้เป็นลำดับแรก ตำนานการสร้างวัดพระธาตุลำปางหลวงระบุว่า วัดนี้มีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 20 นอกจากเป็นวัดไม้ที่มีความสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทยซึ่งงดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่แล้ว พระธาตุลำปางหลวงยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู ด้วยเริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จสิ้นในปีฉลูเช่นเดียวกัน น่าชม พระธาตุลำปางหลวง องค์พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดที่มีฐานเป็นบัวลูกแก้ว ส่วนองค์เป็นทรงกลมแบบล้านนา ภายนอกบุด้วยทองจังโกยอดฉัตรทำด้วยทองคำมีลายสลักดุนเป็นลวดลายประจำยามแบบต่าง ๆ ซึ่งลักษณะเจดีย์แบบนี้ได้ส่งอิทธิพลต่อพระธาตุหริภุญไชยและพระบรมธาตุจอมทอง โดยภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระเกศาและพระอัฐิธาตุจากพระนลาฎข้างขวาพระศอด้านหน้าและด้านหลัง ที่รั้วทองเหลืองรอบองค์พระธาตุมีรูกระสุนปืนที่หนานทิพย์ช้างยิงท้าวมหายศปรากฏอยู่ พระแก้วดอนเต้าหรือพระแก้วมรกต อันเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปาง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิในศิลปะล้านนาที่สลักด้วยหยกสีเขียว และมีการจัดงานนมัสการพระแก้วดอนเต้าในวันเพ็ญเดือน 12 ของทุกปี วิหารหลวง วิหารขนาดใหญ่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2019 โดยเจ้าหมื่นคำเป๊ก ภายในมีซุ้มปราสาททองอันเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าล้านทอง ด้านหลังเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าทันใจ บนแผงไม้คอสองมีภาพจิตรกรรมเก่าแก่งดงามเรื่องทศชาติและพรหมจักร วิหารพระพุทธ ไม่ปรากฏที่มาการสร้างแต่ประมาณการว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 700 ปี เดิมเป็นวิหารเปิดโล่ง หน้าบันเป็นลายดอกไม้ติดกระจกสี ภายในประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ อาคารก่ออิฐถือปูนพุทธศิลป์แบบศิลปะเชียงแสน และที่สำคัญยังปรากฏเงาพระธาตุภายในวิหารอีกด้วย วิหารน้ำแต้ม คุณจะพบวิหารนี้ด้านขวามือเมื่อหันหน้าเข้าหาวิหารหลวง โดยวิหารแห่งนี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าวิหารภาพเขียนสี ("แต้ม"แปลว่าภาพเขียน) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2044 เป็นวิหารเปิดโล่งที่เก่าแก่ที่สุดหลังหนึ่งในภาคเหนือ และคงรูปแบบของสถาปัตยกรรมไทยที่งดงาม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยหน้าตักกว้าง 1.25 เมตรสูง 1.25 เมตร ภายในไม่มีฝ้าเพดาน กำแพงด้านพระประธานเขียนภาพลายทองบนพื้นรักแดง มีภาพจิตรกรรมศิลปะล้านนาบนแผงไม้คอสองที่กล่าวกันว่าเก่าแก่ที่สุดและหลงเหลือเพียงแห่งเดียวในเมืองไทยอายุราวพุทธศตวรรษที่ 21 ลงมาแต่ปัจจุบันภาพเขียนลบเลือนไปมากแล้วก็ตาม ซุ้มพระบาท เป็นซุ้มที่สร้างครอบพระพุทธบาทไว้ ฐานก่อขึ้นเป็นชั้นคล้ายฐานเจดีย์สร้างเมื่อ พ.ศ. 1992 ภายในจะมองเห็นแสงหักเหปรากฏเป็นเงาพระธาตุและพระวิหาร ในด้านมุมกลับแต่ที่นี่มีข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้น กุฏิพระแก้ว เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ซึ่งไม่ปรากฏตำนานการสร้าง ทว่ามีการประมาณอายุของที่นี่ไม่น่าจะต่ำกว่า 400 ปีมาแล้ว วิหารพระเจ้าศิลา เป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าศิลาซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงละโว้เมื่อ พ.ศ. 1275 พระบิดาของพระนางจามเทวีได้มอบให้ประดิษฐานไว้ ณ ที่นี้ พิพิธภัณฑ์ อันเป็นที่เก็บรวบรวมศิลปวัตถุจากที่ต่าง ๆ ที่หาชมได้ยาก เช่น สังเค็ด ธรรมาสน์ คานหาบ ตู้พระไตรปิฎก เป็นต้น วัดพระธาตุลำปางหลวงเปิดทุกวันเวลา 07.30-17.00 น.


ที่อยู่ : เกาะคา, ลำปาง

เครดิต :  http://1ab.in/PTw

 

วัดพระธาตุดอยพระฌาน


วัดพระธาตุดอยพระฌาน เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอันเงียบสงบภูเขาที่เรียกว่าดอยพระฌาน สามารถมองเห็นทิวทัศน์และทัศนียภาพที่สวยงามของอำเภอแม่ทะ เห็นทิวเขาต้นไม้เขียวขจีได้รอบทิศ ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวในช่วงเวลาเช้าสามารถชมทะเลหมอกอันงดงามได้อีกด้วย

เครดิต : http://1ab.in/PTy

 


 

แสดงความคิดเห็น

Whatsapp Button works on Mobile Device only