วัดโพธิ์เก้าต้น (วัดไม้แดง)
วัดหน้าพระธาตุ
วัดพิกุลทอง
อนุสาวรีย์วีรชนและอุทยานค่ายบางระจัน
จังหวัดสิงห์บุรีเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย เพราะมีวัดเก่าแก่หลายวัด และเป็นเมืองยุทธศาสตร์ในการทึกศึกสงครามสมัยอยุธยาที่สำคัญด้วย เรื่องราวที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดของท้องถิ่นนี้คือวีรกรรมอันกล้าหาญของชาวบ้านบางระจันที่ช่วยต่อต้านทัพพม่าไว้ได้นาน ดังนั้นจึงมีการสร้างอนุสาวรีย์วีรชนขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญนั้น รวมถึงอุทยานค่ายบางระจันด้วย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่ปัจจุบันสร้างให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และมีพิพิธภัณฑ์ให้เยี่ยมชมศึกษา ที่นี่อยู่ห่างจากตัวเมือง 15 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3032 มีพื้นที่ประมาณ 115 ไร่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันทรงเปิดอนุสาวรีย์นี้เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 เป็นสวนรุกขชาติ บรรยากาศร่มรื่นย์ สวยงาม เมื่อมาถึงจะเห็นอนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจันเป็นรูปหล่อประติมากรรมของหัวหน้าชาวค่ายบางระจันทั้ง 11 คน สร้างโดยกรมศิลปากรปรากฏสวยเด่นเป็นสง่าอยู่ในสวน ค่ายบางระจันมีความสำคัญยิ่งทางประวัติศาสตร์ โดยเมื่อเดือน 3 ปีระกา พ.ศ. 2308 ชาวบ้านบางระจันได้รวมพลังกันต่อสู้กับกองทัพพม่าซึ่งมีจำนวนมากมายมหาศาลเป็นต่ออย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นพม่ายังยกทัพเข้าตีหมู่บ้านนี้ถึง 8 ครั้ง ใช้เวลานานถึง 5 เดือน จึงเอาชนะได้เมื่อวันจันทร์แรม 2 ค่ำ เดือน 8 ปีจอ พ.ศ. 2309 กล่าวได้ว่าชาวบ้านต้านทานกองทัพได้เป็นเวลานานด้วยกำลังพลเพียงน้อยนิด สำหรับค่ายบางระจันนั้น ในปัจจุบันได้จำลองขึ้นโดยอาศัยรูปแบบค่ายในสมัยโบราณ และภายในบริเวณยังมีอาคารศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์วีรชนค่ายบางระจัน ซึ่งจัดห้องนิทรรศการอยู่ตลอดโดยแบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ ดังนี้ ห้องแรก แสดงเรื่องค่ายบางระจัน เครื่องใช้โบราณ แหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อย หนังใหญ่ ห้องที่สอง จัดแสดงมรดกเมืองสิงห์บุรี ห้องที่สาม แสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองสิงห์บุรีและของดีเมืองสิงห์บุรี
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
การเดินทาง: โดยรถประจำทาง สามารถขึ้นรถที่ บขส. ในอำเภอเมืองสิงห์บุรี สายสุพรรณบุรี-สิงห์บุรี มาลงที่อนุสาวรีย์วีรชนฯ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: โทร. 0 3659 7126
ที่อยู่ : ค่ายบางระจัน, สิงห์บุรี
เครดิต : https://zhort.link/iGe
วัดพระปรางค์มุนี
วัดที่คาดว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายแห่งนี้ และเหตุที่ชื่อวัดพระปรางค์มุนีน่าจะสืบเนื่อง จากพระปรางค์องค์ใหญ่สีทองอร่ามตาที่แลดูโดดเด่นเป็นสง่าเมื่อมองมาแต่ไกล อย่างไรก็ตาม นอกจาก พระปรางค์องค์ใหญ่แล้ว ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจซึ่งนักท่องเที่ยวหลายคนน่าแวะไปเยี่ยมเยือนหากมีโอกาส ได้แก่ วิหารหลวงพ่อเย็น พระพุทธรูปปูนปั้นเก่าแก่ หลวงพ่อขาวและหลวงพ่อนาก ซึ่งมีเรื่องเล่ากันมาว่า มีพระธุดงค์รูปหนึ่งมาปักกลดภาวนาอยู่ในวัดและได้อาราธนาขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อเย็นซึ่งขณะนั้นมีแต่เศียร ท่านได้นำน้ำนี้ไปรักษาโรคภัยต่าง ๆ ให้ชาวบ้าน ดังนั้นชาวบ้านที่เลื่อมใสจึงพากันเรียก ติดปากว่าหลวงพ่อเย็น ซึ่งหมายถึงความร่มเย็นเป็นสุขนั่นเอง พระประธานที่ประดิษฐานภายในพระอุโบสถสีทองอร่ามนามว่า พระภูเขาทอง หลวงพ่อใหญ่ชัยมงคล หรือ พระพุทธนิมิตพิชิตมารมหาจักรพรรดิ์ ประดิษฐานบนศาลาการเปรียญ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์และต้นนารีผลจำลอง ซึ่งอยู่ใกล้กับศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง และด้านหลังวิหารยังมีต้นศรีมหาโพธิ์ ซึ่งบริเวณโคนต้นมีพระผุด ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในโบสถ์ที่สวยงามซึ่งเป็นฝีมือของนายเพ็ง คนลาว ที่วาดไว้เมื่อปี พ.ศ. 2462 เล่าเรื่องเกี่ยวกับนรก สวรรค์ พุทธประวัติและพุทธชาดก
เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.00-16.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 3652 0079
ที่อยู่ : หมู่ 7 เมืองสิงห์บุรี, สิงห์บุรี
เครดิต : https://zhort.link/iGh
แสดงความคิดเห็น